“รถทุกคันต้องมีประกันภัย พ.ร.บ.ตามกฎหมาย

เพื่อเป็นหลักประกันเมื่อมีผู้ประสบอุบัติเหตุจากรถ ทุกคนจะได้รับความคุ้มครอง”

กฎหมายกำหนดให้เจ้าของรถทุกคนต้องจัดทำประกันภัยภาคบังคับ หรือประกันภัย พ.ร.บ. เพื่อเป็นหลักประกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ผู้ประสบภัยจากรถที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจะได้รับการคุ้มครองเยียวยาตามกฎหมาย ไม่ว่าผู้ประสบภัยจากรถนั้นจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสารหรือบุคคลภายนอก ผู้มีหน้าที่ต้องทำประกันภัย คือ เจ้าของรถทุกคนหรือผู้มีสิทธิครอบครองรถตามสัญญาเช่าซื้อ และผู้นำรถที่จดทะเบียนในต่างประเทศเข้ามาใช้ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว (กฎหมายนี้ให้ความคุ้มครองเฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ชีวิต ร่างกาย และอนามัยเท่านั้น ไม่รวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สิน)

แต่ขณะเดียวกัน“โทษของการฝ่าฝืนไม่ทำประกันภัยตามกฎหมาย”เจ้าของรถหรือผู้มีสิทธิครอบครองรถตามสัญญาเช่าซื้อหากไม่ทำประกันภัยเพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ มีโทษ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากผู้ใดนำรถที่ไม่มีประกันภัยมาใช้ ก็จะมีโทษ ปรับไม่เกิน 10,000 บาทด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้าเป็นเจ้าของรถแล้วไม่ทำประกันภัยและยังนำรถที่ไม่มีประกันภัยนี้ไปใช้จะมีโทษปรับทั้ง 2 กระทงความผิด

โดย“ความคุ้มครองประกันภัย พ.ร.บ. อุบัติเหตุจากรถ (ตั้งแต่ 1 เมษายน 2563)” ผู้ประสบภัยจากรถจะได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย ซึ่งผู้ขับขี่รถคันที่เอาประกันภัยต้องรับผิดตามกฎหมายต่อผู้ประสบภัย คุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 80,000 บาทต่อคนสำหรับความเสียหายต่อร่างกาย หรืออนามัย หรือ 500,000 บาทต่อคนสำหรับความเสียหายต่อชีวิต สูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงแล้วแต่กรณี

“สุจริต”ได้รับความคุ้มครอง “ผู้ทุจริต”กฎหมายลงโทษ โดยในการใช้สิทธินั้น ผู้ประสบภัยหรือทายาท ผู้ใดยื่นคำขอรับค่าเสียหายโดยทุจริตหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ เพื่อขอรับค่าเสียหายตาม พ.ร.บ.นี้ มีความผิดมีโทษทางอาญาคือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้นเจ้าของรถทุกคนจึงต้องตระหนักและให้ความสำคัญกับการทำประกันภัย พ.ร.บ. ไม่ใช่เพียงเพราะว่าเป็นสิ่งที่กฎหมายกำหนดหรือบังคับให้ทำเท่านั้น แต่การทำประกันภัย พ.ร.บ.นั้นเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อชีวิตของบุคคลอื่นหรือรถคันอื่นที่อยู่บนท้องถนน รวมทั้งบุคคลภายนอกที่อาจได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุที่เกิดจากรถ ผู้ประสบภัยเหล่านั้นควรได้รับการคุ้มครองจาก พ.ร.บ.อย่างเต็มที่ แม้ว่าอุบัติเหตุไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่ผู้ประสบภัยจากรถก็สามารถที่จะได้รับการเยียวยาได้“หากรถทุกคันมีประกันภัย พ.ร.บ.”

สำหรับขั้นตอนการรับสิทธินั้นผู้ประสบภัยสามารถติดต่อใช้สิทธิได้ที่บริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยรถหรือที่บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ที่มีสาขาให้บริการทุกจังหวัดทั่วประเทศ หรือ สอบถามการทำประกันภัย พ.ร.บ.และตรวจสอบการใช้สิทธิตามประกันภัย พ.ร.บ.ได้ที่ www.rvp.co.th หรือติดต่อ Call Center บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด 1791 ตลอด 24 ชั่วโมง

“เกิดอุบัติเหตุจากรถ ผู้ประสบภัยต้องแจ้งเหตุทันที ได้ที่บริษัทกลางฯ โทร 1791 ตลอด 24 ชั่วโมง”


ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 1,330,829