เลขาธิการ คปภ. ลงพื้นที่ “ตรวจเยี่ยม-มอบนโยบาย” บุคลากรสำนักงาน คปภ. ภาค 7 (นครปฐม)

•ปรับวิธีการทำงานใหม่ในวิถี New Normal เน้นการคุ้มครองสิทธิด้านการประกันภัยให้ประชาชน พร้อมเร่งจัดเก็บข้อมูลในพื้นที่ เพื่อใช้ระบบประกันภัยตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน ในท้องถิ่น

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สำนักงาน คปภ. จากส่วนกลาง ตรวจเยี่ยมสำนักงาน คปภ. จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2563 โดยมีนางสาวอิสรี เกตุกล่ำ ผู้เชี่ยวชาญ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ. จังหวัดราชบุรี รายงานผลการปฏิบัติงาน ว่า ในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2563 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเลขาธิการ คปภ. ได้มอบนโยบายการทำงานเชิงรุกเน้นการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านประกันภัย ขยายเครือข่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน รวมทั้งชมรมประกันภัยต่างๆ ในพื้นที่ให้เกิดความเข้มแข็ง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง แก่ประชาชน ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงาน

ทั้งนี้ จากการรายงานสภาพปัญหาในพื้นที่พบว่ามีการเกิดอุบัติเหตุอันเนื่องมาจากรถยนต์ และ รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถไฟบริเวณที่เป็นจุดตัดทางรถไฟกับทางรถยนต์อยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งจังหวัดราชบุรี มีเรือ รับ-ส่ง นักท่องเที่ยวในตลาดน้ำดำเนินสะดวก จำนวน 500-600 ลำ และมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติใช้ บริการเป็นจำนวนมากซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จึงได้กำหนดแนวทางการรณรงค์ร่วมกับเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และดำเนินการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบประกันภัยกับผู้ประกอบการเรือโดยเร่งด่วน

นอกจากนี้ เลขาธิการ คปภ. ได้มอบหมายให้สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค บูรณาการทำงานร่วมกับสายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย จัดทำคู่มือและแบบฟอร์มการจัดเก็บข้อมูลเพื่อนำมาพัฒนาจัดทำกรมธรรม์ประกันภัย ที่เกี่ยวกับ พืช สินค้า ปศุสัตว์ ประจำท้องถิ่น โดยให้เร่งจัดทำแบบฟอร์มฯ ดังกล่าว เพื่อให้สำนักงาน คปภ. จังหวัด ราชบุรี ลงพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลสภาพปัญหาเชิงลึก ตลอดจนข้อมูลความเสี่ยงและการประเมินความต้องการ ด้านประกันภัยเพื่อนำข้อมูลดังกล่าวไปพัฒนาจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยให้ตรงกับความต้องการในพื้นที่ อาทิ ข้อมูล ผลิตภัณฑ์เซรามิคเครื่องปั้นดินเผา ข้อมูลผลิตภัณฑ์โอ่งราชบุรี ข้อมูลสุกร ข้อมูลพืชผลประจำท้องถิ่น เช่น สับปะรด มะพร้าวน้ำหอม เป็นต้น

จากนั้น เลขาธิการ คปภ. พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ คปภ.จากส่วนกลาง ได้เดินทางตรวจเยี่ยม สำนักงาน คปภ. ภาค 7 (นครปฐม) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดนครปฐม โดยมีนางจันทิมา มีโส ผู้อำนวยการภาค สำนักงาน คปภ.ภาค 7 (นครปฐม) และนางสาววราภรณ์ ยี่รงค์ ผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ.จังหวัดนครปฐม ให้การต้อนรับและรายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน คปภ. ทั้ง 9 จังหวัดที่อยู่ภายใต้กำกับดูแล โดยในภาพรวมของการปฏิบัติงานในช่วงครึ่งปีแรกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในโอกาสนี้ เลขาธิการ คปภ. ได้มอบนโยบายในการ ดำเนินงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด ได้แก่ การใช้สอยพื้นที่อาคารสำนักงานให้เต็มประสิทธิภาพ การขยายพื้นที่ห้องสอบ เพื่อรองรับการสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นตัวแทนนายหน้าประกันภัยในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง การบริหาร จัดการครุภัณฑ์ที่ชำรุดและเสื่อมสภาพไม่ได้ใช้งานเพื่อไม่ให้เป็นภาระในการจัดเก็บ ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น เป็นต้น

เลขาธิการ คปภ. ยังได้มอบนโยบายให้สำนักงาน คปภ. ภาค เป็นแกนหลักในการส่งต่อข้อมูลให้กับจังหวัด ภายใต้การกำกับดูแล ให้มีมาตรฐานเดียวกัน เช่น การทำประกันภัยบริเวณชายแดนของจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ที่มีรอยต่อติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ควรมีรูปแบบการขับเคลื่อนเป็นไปในทิศทางเดี ยวกัน เพื่อให้เกิดความสะดวกต่อการนำระบบประกันภัยไปสู่ประชาชนที่อยู่บริเวณชายขอบของประเทศไทย รวมทั้ ง สำนักงาน คปภ.ภาค ต้องติดตามโครงการการจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยพืชผล สินค้า ปศุสัตว์ ประจำท้องถิ่น หรือ โครงการ 1 จังหวัด 1 กรมธรรม์ให้เป็นรูปธรรมและมีความยั่งยืนด้วย ในส่วนของสำนักงาน คปภ.จังหวัด ก็สามารถ ที่จะนำกรมธรรม์ประกันภัยที่มีอยู่ก่อนแล้วมาปรับปรุงให้เหมาะสมกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ตนเอง เช่น จังหวัดนครปฐม ต้องการทำประกันภัยรถรางในวัดไร่ขิง ก็สามารถใช้โมเดลเดียวกับการทำประกันภัยรถรางที่จังหวัด พระนครศรีอยุธยา หรือ จังหวัดใดมีความต้องการจัดทำประกันภัยโคนม โคเนื้อ ก็สามารถใช้โมเดลเดียวกับกรมธรรม์ ประกันภัยโคนม โคเนื้อ ที่จังหวัดสระบุรี หรือต้องการจัดทำประกันภัยไข้เลือดออกก็สามารถใช้โมเดลเดียวกับ กรมธรรม์ไข้เลือดออกที่จังหวัดขอนแก่น เป็นต้น รวมถึงการติดตามการเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยผ่านช่องทาง ธนาคารและการศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเงื่อนไขและแนวปฏิบัติของประกาศ คปภ. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต/วินาศภัย และการดำเนินการของตัวแทนประกันชีวิต/วินาศภัย นายหน้าประกันชีวิต/วินาศภัยและธนาคาร(ฉบับใหม่) ซึ่งคณะกรรมการ คปภ. ได้ ให้ความเห็นชอบแล้ว และอยู่ระหว่างเสนอให้ท่านปลัดกระทรวงการคลังลงนามให้มีผลบังคับใช้ ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามกติกาที่สำนักงาน คปภ. กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อมิให้เกิดปัญหาร้องเรียนตามมาในภายหลัง

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้โลกเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ และทำให้ พฤติกรรมของผู้คนในสังคมมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นหลายมิติ ทั้งทางด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม รวมถึงความ สนใจด้านการประกันภัยของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะพฤติกรรมการซื้อประกันภัยผ่านระบบออนไลน์ และ การให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ตอบโจทย์ในยุคโควิด-19 เช่น การประกันภัยโควิด-19 การประกันภัยสุขภาพ การประกันภัยโรคร้ายแรง เป็นต้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าว ก่อให้เกิด New Normal ในการทำงาน หรือ ที่เรียกว่า ความปกติใหม่ในการทำงาน

“ในโอกาสนี้ ผมจึงขอให้ทุกคนใช้ช่วงเวลานี้ในการสร้างเป้าหมายการทำงานใหม่ พัฒนาตนเองให้พร้อมรับกับความท้าทายที่ต้องเผชิญอยู่เสมอ เปิดใจพร้อมเรียนรู้ความเปลี่ยนแปลง โดยสำนักงาน คปภ.ภาค ต้องทำหน้าที่ในการ กำกับดูแลสำนักงาน คปภ.จังหวัด และปรับวิธีการทำงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ New Normal โดยนำเทคโนโลยี มาใช้ในการทำงาน ทั้งด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ การใช้ Social Media เป็นสื่อกลางในการติดตามข่าวสาร รวมถึง การใช้ระบบออนไลน์เป็นช่องทางในการศึกษาและเรียนรู้ อาทิ ระบบ Microsoft Teams ระบบการประชุมทาง จอภาพ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน นอกจากนี้ ต้องบูรณาการการทำงานเชิงรุกร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภายใต้มาตรการ “การ์ดไม่ตก” เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ปะชาชน รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชน เข้าถึงช่องทางการเรียนรู้ด้านการประกันภัยผ่านแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ เช่น กูรูประกันภัย รอบรู้ประกันภัย กูรูประกัน ข้าว E-claim เว็ปไซต์ของสำนักงาน คปภ. เป็นต้น ตลอดจนให้ความสำคัญกับการรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อกำหนด แนวทางการทำงานให้ถูกต้องตรงจุด รวมทั้งต้องบริหารจัดการเรื่องร้องเรียนด้านประกันภัยอย่างเป็นธรรม รอบคอบและรัดกุมเพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านประกันภัยให้กับประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย


ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 1,330,825