เบี้ยประกันชีวิตรับสิ้นเดือนพฤศจิกายน ปี 61 เติบโต 4.19%

นายพิชา สิริโยธิน ผู้อำนวยการบริหารสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่าเบี้ยประกันชีวิตรับรวม ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน2561 (เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2561)มีจำนวน562,481.69ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน(เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2560)4.19%และคิดเป็นอัตราความคงอยู่ร้อยละ83โดยแยกเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่จำนวน 162,461.31 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน7.18% และเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่ออายุมีจำนวน 400,020.38ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน3.03% สำหรับเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ แยกเป็น (1) เบี้ยประกันชีวิตรับปีแรกจำนวน 84,681.34ล้านบาท และ (2) เบี้ยประกันชีวิตรับจ่ายครั้งเดียวจำนวน 77,779.97 ล้านบาท

ผู้อำนวยการบริหารสมาคมกล่าวเพิ่มเติมว่าเริ่มต้นศักราชใหม่ปี 2562 ควรเริ่มต้นด้วยสิ่งใหม่ที่ดีๆ โดยเฉพาะควรเริ่มต้นด้วยการวางแผนการใช้ชีวิตและการวางแผนทางการเงิน และที่สำคัญ คือ ควรเริ่มต้นด้วยการวางแผนในการซื้อความคุ้มครองชีวิตซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น และซื้อความคุ้มครองสุขภาพเพื่อเป็นการสร้างความคุ้มครองด้านค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลรวมถึงเป็นการสร้างหลักประกันเรื่องรายได้หากต้องนอนพักรักษาพยาบาลเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุจากข้อมูลสถิติในปี 2560 พบว่า อัตราการถือครองกรมธรรม์ของประชาชนไทย คิดเป็น 39.52% ของจำนวนประชากรทั่วประเทศซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งประเทศ

ดังนั้น จึงขอเชิญชวนประชาชนให้ตระหนักและเห็นความสำคัญของการทำประกันชีวิต โดยทำประกันชีวิตอย่างน้อยคนละ 1 กรมธรรม์โดยสามารถเลือกความคุ้มครองให้ตรงกับความต้องการของตนเอง ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เลือกต้องมีความเหมาะสมกับตนเองด้วยซึ่งในปัจจุบันบริษัทประกันชีวิตทุกบริษัทต่างนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มีความหลากหลายและสามารถตอบสนองการใช้ชีวิตในปัจจุบันของประชาชนทุกเพศ ทุกวัยได้ ไม่ว่าจะเป็นประกันภัยควบคู่กับการลงทุน (Unit-Linked)ที่เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองควบคู่กับการลงทุน ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบเงินได้ประจำซึ่งคุ้มครองรายได้หลังเกษียณอายุ นอกจากนั้นช่องทางการซื้อและช่องทางการชำระเบี้ยประกันภัยสามารถเข้าถึงได้ง่ายสะดวกรวดเร็วเช่นบริษัทเคาน์เตอร์เซอร์วิสจำกัด, Internet Banking เป็นต้นรวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยและการบริการของบริษัทประกันชีวิตที่มุ่งเน้นให้ผู้เอาประกันภัยเป็นศูนย์กลาง และมาตรการกำกับดูแลของภาครัฐเป็นหนึ่งเหตุผลที่ประชาชนสามารถเชื่อมั่นในการซื้อประกันชีวิตได้สุดท้ายนี้ นอกจากการทำประกันชีวิตให้แก่ตนเองแล้วควรทำประกันชีวิตให้กับคนที่เรารักเพื่อเป็นการเริ่มต้นศักราชใหม่ด้วยการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนที่เรารัก


ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 1,330,770