กรุงเทพประกันชีวิต กางแผนธุรกิจปี 60
ลั่นเดินหน้ากลยุทธ์หลักมุ่งเน้นพัฒนา 3 ด้าน
สู่ผู้นำการวางแผนการเงินรอบด้าน
กรุงเทพประกันชีวิต ปรับกลยุทธ์ด้านต่างๆ มุ่งเน้นพัฒนาทั้งด้านการตลาด ผลิตภัณฑ์ ช่องทางจัดจำหน่าย สร้างสมดุลในการขยายฐานลูกค้าและการสร้างผลกำไร ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพตัวแทนและที่ปรึกษาการเงิน พร้อมตั้งเป้าเป็นผู้นำสินค้าสุขภาพและบำนาญ
นายวิพล วรเสาหฤท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต เปิดเผยว่า “ตลอดหลายปีที่ผ่านมา กรุงเทพประกันชีวิตได้มุ่งมั่นพัฒนากลยุทธ์ทุกด้านเพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการปรับแผนพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดและความต้องการของผู้บริโภค จนทำให้ปี 2559 การดำเนินงานโดยรวมประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น พร้อมกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 25 จากปีก่อน”
“สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2560 บริษัทมุ่งตอกย้ำภาพลักษณ์การเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินให้ประชาชน เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในทุกช่วงชีวิต ผ่านการวางแผนการเงินรอบด้าน เน้นแผนการตลาดแบบรุก พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค เปิดตลาดใหม่ สร้างบุคลากรและตัวแทนคุณภาพเพื่อขยายฐานลูกค้าและรองรับเติบโตในปี 60 ไปพร้อมๆ กับการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตร คู่ค้า เพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน
การนี้ยังเปิดแผนธุรกิจเดินหน้ากลยุทธ์มุ่งเน้นพัฒนา 3 ด้านหลัก เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงรองรับการเติบโตในอนาคต ดึงศักยภาพบุคลากรและตัวแทน เพื่อพัฒนาองค์กรอย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมผลักดันการพัฒนาด้านธุรกิจประกันภัยผ่านดิจิทัล เพื่อยกระดับการดำเนินงานและการบริการ สู่ผู้นำการวางแผนการเงินรอบด้าน” นายวิพล กล่าว
นอกจากกลยุทธ์การขยายตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ นายวิพล กล่าวเสริมว่า “ในการสร้างรากฐานที่มั่นคงเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ในปีนี้กรุงเทพประกันชีวิตวางแผนเพื่อวางรากฐานระบบงาน ทั้งในส่วนการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลด้านการสนับสนุนการขาย มีการพัฒนากระบวนการการทำงาน บริหารต้นทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยในการดำเนินงานและการบริหาร
อีกทั้งทำการยกระดับความรู้ความสามารถของบุคลากร เพื่อดึงศักยภาพที่มีอยู่ออกมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทั้งภายในองค์กรและเพื่อประโยชน์ของลูกค้า บริษัทปรับกลยุทธ์และแผนพัฒนาศักยภาพของทั้งพนักงานและตัวแทนประกันชีวิต โดยปรับปรุงหลักสูตรอบรม พัฒนาความรู้ใหม่ เพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรเพื่อให้แข่งขันกับตลาดปัจจุบัน และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกได้ ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างให้พนักงานมีความภูมิใจในองค์กร ผูกพันและมีความรู้สึกเป็นเจ้าขององค์กรมากขึ้น รวมถึงมีการสร้างบรรยากาศให้เป็นองค์กรที่น่าอยู่และมีความสุขในการทำงานไปพร้อมๆ กัน
สุดท้ายนี้ บริษัทยังผลักดันการพัฒนาด้านธุรกิจประกันภัยผ่านดิจิทัล เพื่อยกระดับ การดำเนินงานและบริการด้วยการมุ่งเน้นกลยุทธ์หลักใน 3 มุมมอง คือ ด้านลูกค้า มุ่งตอบสนองพฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ยกระดับการประกันชีวิตผ่านโลกของดิจิทัลเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัทวางแผนเสริมสร้างและปรับเปลี่ยนรูปแบบช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากที่สุด พร้อมการนำเสนอสินค้าที่เหมาะสม ยืดหยุ่นให้กับลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ตามความต้องการ ทั้งช่องทางปัจจุบัน ช่องทางใหม่ เช่น ระบบการบริการออนไลน์ ท้ายสุดคือ การพัฒนาด้านนวัตกรรม บริษัทเปิดรับเทคโนโลยีและคู่ค้าใหม่ๆ ที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการที่จะผลักดันและส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแรง”
“นอกจากนี้ กรุงเทพประกันชีวิต ยังคงให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดการสร้างความสุขอย่างยั่งยืน ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมภิบาล โดยเริ่มจากภายใน สู่ภายนอกองค์กร และขยายต่อไปยังชุมชน ผ่านโครงการเพื่อสังคมครอบคลุมทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ สร้างความมั่นคงทางการเงิน การสนับสนุนการศึกษา การส่งเสริมสุขภาพและกีฬา การดูแลด้านสิ่งแวดล้อม การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ และการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทยอย่างต่อเนื่องผ่านกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งปี เพื่อชีวิตที่มีความสุขรอบด้านของทุกคนในสังคมไทย” นายวิพล กล่าวสรุป