“ไลฟ์เวนเทจ”ได้ฤกษ์เปิดตัวรุกตลาดอย่างเป็นทางการเดือนมิ.ย.

หลังซุ่มเข้ามาทำตลาดในไทยเมื่อ 2ปีเพื่อเตรียมความพร้อม-ระบบ
ดันไทยขึ้นเกตเวย์ เปิดประตูเข้าบุกตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


รร.มิราเคิล แกรนด์ หลักสี่ / “ไลฟ์เวนเทจ”บริษัทขายตรงที่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq (LFVN) เตรียมเปิดตัวรุกอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 24 มิถุนายน หลังจากทำพรีล้อนซ์มาก่อนหน้า 2 ปีเพื่อทดลองระบบและเตรียวความพร้อม เผยดันไทยเป็นเกตเวย์ขยายตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเล็งเปิดตลาดใหม่ที่สิงค์โปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซียและอินเดีย ระบุตลาดไทยมีศักยภาพสูงและมีโอกาสที่เติบโตอีกมาก จากปัจจัยหลักคนไทยอยู่ในธุรกิจเครือข่ายกว่า 1 ล้านคนและมีความรู้ในตลาดขายตรงเป็นอย่างดี วาดเป้าอนาคตขึ้นแท่นผู้นำบริษัทขายตรง

มร.ดาร์เร็น เจนเซ่น ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลฟ์เวนเทจ คอร์ปอร์เรชั่น เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลา 2 ปี นโยบายหลักนอกเหนือจากการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจในประเทศไทยแล้ว บริษัทยังมีแผนการใช้ประเทศไทยเป็นประตูหรือเกตเวย์ในการขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ ในอาเซียน และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประเทศที่ให้ความสนใจนั้นประกอบด้วยสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซียและอินเดีย

ทั้งนี้การที่เลือกประเทศไทยเป็นเกตเวย์นั้น เนื่องจากเห็นความพร้อมและศักยภาพของประเทศไทย เพราะปัจจุบันมีคนไทยกว่า 1 ล้านคนที่อยู่ในธุรกิจเครือข่าย หรือคิดเป็น 16% ของจำนวนประชากรทั้งหมด อีกทั้งคนไทยมีความรู้ทางด้านธุรกิจขายตรงและพร้อมที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจ ซึ่งทำให้เห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจขายตรงได้อีกมาก
สำหรับบริษัทไลฟ์เวนเทจนั้น ได้เริ่มรุกเข้าธุรกิจเครือข่ายในช่วง 7 ปีทีผ่านมา โดยปัจจุบันได้เข้าทำตลาดใน 9 ประเทศ ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกาออสเตรเลียแคนาดาฮ่องกงญี่ปุ่นแม็กซิโกประเทศไทย สหราชอาณาจักร และเนเธอร์แลนด์โดยมีผลประกอบการรวมอยู่ที่ 207 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ มีจำนวนนักธุรกิจประมาณ 63,000 คน และมีฐานสมาชิกผู้บริโภค 110,000 คน โดยเป้าหมายสูงสุดของบริษัทนั้น ต้องการเป็นบริษัทผู้นำธุรกิจขายตรงทั่วโลก

ทั้งนี้การที่บริษัทมีความมั่นใจว่าจะสามารถขึ้นเป็นบริษัทผู้นำธุรกิจขายตรงทั่วโลกในอนาคตนั้น เนื่องจากบริษัทมีจุดแข็งใน 3 ด้านที่ไม่เหมือนคู่แข่งรายอื่น ประกอบด้วย 1. ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่น เป็นสินค้านวัตกรรมที่มีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์รองรับ 2. บริษัทแม่พร้อมให้การสนับสนุนด้านการเงินให้กับธุรกิจที่บริษัทเข้าไปขยายตลาด รวมถึงสนับสนุนในด้านเทคโนโลยีต่างๆ 3.แผนการจ่ายผลตอบแทนให้กับสมาชิกสูงสุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งทั่วโลก ซึ่งการจ่ายผลตอบแทนเฉลี่ยของบริษัททั่วไปที่ให้กับสมาชิกนั้นปกติจะเฉลี่ยอยู่ที่ 33-34% ขณะที่บริษัทจ่ายผลตอบแทนสูงสุดถึง 48% และนอกเหนือจากจุดแข็ง 3 ด้านแล้ว บริษัทยังเน้นการตอบแทนสังคมด้วยการช่วยเหลือคนจนในประเทศต่างๆ รวมถึงผู้ประสบภัยด้วย

ด้านมร. คอร์ทแลนด์ เพียร์สัน รองประธานอาวุโส ระหว่างประเทศ บริษัท ไลฟ์เวนเทจ คอร์ปอร์เรชั่น กล่าวว่า บริษัทได้ทำการพรีลอนซ์ไลฟ์เวนเทจ ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2560 และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน 2560 รวมถึงจะเริ่มรุกตลาดอย่างจริงจัง หลังจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านระบบต่างๆ รวมถึงจะมีการเปิดตัวสินค้าที่เป็นหัวหอกหลักในการทำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โปรแทนดิม เอ็นอาร์เอฟทู ที่ได้เริ่มจำหน่ายในเดือน มีนาคม 2560 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีโปรโมชั่นเพิ่ม โบนัสค่าแนะนำอีก 15% ให้แก่ผู้นำชุดธุรกิจแพลทตินั่ม และ บริษัทฯมีคุณสมบัติ นักธุรกิจรดะดับ Founder เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับนักธุรกิจอิสระประเทศไทยที่ได้ร่วมสร้างธุรกิจร่วมกับ LifeVantage ประเทศไทย ที่จะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2560 โดยมีคุณสมบัติ Premier Pro5 ขึ้นไปและจะเชิดชูกียรติในเดือน มิถุนายน 2560 และคุณสมบัตินี้ จะสิ้นสุดในเดือนธันวาคม 2560 โดยนักธุรกิจอิสระที่มีคุณสมบัติ Founderจะมีสิทธิ์ได้รับโบนัสมากขึ้น และยังมีสิทธิ์ที่จะมีคุณบัติ เป็น Elite founder Bonus ที่จะได้รับรางวัล MyLifeVentureโดยมีคุณสมบัติ เป็น Elite Pro 7 และรักษาคุณสมบัติ เพื่อรับโบนัส จำนวน 875,000 บาท และพิศษสุด สำหรับนักธุรกิจอิสระในประเทศไทย ที่ได้รับโบนัสนี้ คนแรกของประเทศไทย จะได้รับเงินโบนัสสูงถึง 1,000,000 บาท

ด้านนางวิภารัตน์ รัตนพรหมมา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลฟ์เวนเทจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ไลฟ์เวนเทจให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง บริษัทมีแผนการโฆษณาประชาสัมพันธ์และการใช้ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งเข้ามารุกตลาดมากขึ้น โดยคาดว่าหลังจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์หลักอย่างโปรแทนดิม เอ็นอาร์เอฟทูคาดว่าจะสร้างสีสันให้กับตลาดและสมาชิก รวมถึงบริษัทได้มีการจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นสมาชิกอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาบริษัทได้จัดงานประชุมพิเศษเพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในวันที่ 26 มีนาคม 2560 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ กรุงเทพ ในงานประชุมพิเศษจะมีกิจกรรมพิเศษ และ ทริปท่องเที่ยว และจะมีงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 24 มิถุนายน 2560 ในงานเปิดตัวนั้น จะมีพิธีมอบเข็มประกาศเกียรติคุณและมอบรางวัลต่างๆให้แก่นักธุรกิจอิสระ และผู้พิชิตคุณสมบัติเพื่อเข้าร่วมการสัมมนา Elite Academy เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนกันยายน 2560

อย่างไรก็ตาม ไลฟ์เวนเทจ เป็นบริษัทฯ ที่จดทะเบียนและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2003ที่มลรัฐยูท่าห์ ประเทศสหรัฐอเมริกาต่อมาได้เปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจจากการค้าปลีกมาสู่การตลาดเครือข่ายในปี 2009 ซึ่งเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับการจัดจำหน่ายและแบ่งปันเรื่องราวของดีๆของบริษัทสู่ผู้คนได้ทั่วโลกและขยายการตลาดได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยี Nrf2 ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และผลิตภัณฑ์ชุดดูแลบำรุงผิวหน้า (skincare)และต่อมาเมื่อปี2012 บริษัทได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq (LFVN)เพื่อการขยายตลาดไปทั่วโลกและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักธุรกิจอิสระ และผู้บริโภค

Visitors: 1,330,825