ธนาสิริ บุกตลาดอสังหาฯ ปีนี้เปิดใหม่ 2 โครงการ มูลค่า995ล้านบาท

ชูกลยุทธ์ออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง และเน้นบ้านสร้างเสร็จพร้อมโอนเพื่อรองรับการเติบโต

ธนาสิริ กรุ๊ป หรือ THANA ปักธงเจ้าตลาดอสังหาฯในเมืองนนท์ ชูกลยุทธ์ออนไลน์ และไดเรกมาร์เก็ตติ้ง และเน้นบ้านสร้างเสร็จพร้อมโอนในสุดยอดทำเลที่ระบบสาธารณูปโภคมีความสมบูรณ์ทั้งระบบ รวมถึง IKEA ที่จะเปิดในช่วงปลายปีนี้ พร้อมบุกปีนี้เปิดโครงการใหม่อีก 2 โครงการมูลค่า 995 ล้านบาท เพื่อรองรับเป้าหมายการเติบโตอีกกว่า 20%

นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายใต้ชื่อ THANA เปิดเผยว่าบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านจัดสรรพร้อมที่ดินเพื่อขาย ประเภททาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว โดยบริษัทจะเป็นผู้พัฒนาโครงการ และเป็นเจ้าของโครงการ เน้นการพัฒนา โครงการในเขตปริมณฑล โดยเน้นทำเลย่านจังหวัดนนทบุรี เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ ปัจจุบันบริษัทพัฒนาโครงการทั้งสิ้น 26 โครงการ จำนวน 2,649 ยูนิต มูลค่า 10,209 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการในจังหวัดนนทบุรี 19 โครงการ จำนวน 2,249 ยูนิต มูลค่า 8,699 ล้านบาท ในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 5 โครงการ 209 ยูนิต มูลค่า 729 ล้านบาท และในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีก 2 โครงการ รวม 191 ยูนิต มูลค่า 781 ล้านบาท โดยในปี 2559 บริษัทฯ ยอดขาย 795 ล้านบาท มีรายได้สุทธิ 787 ล้านบาท และมียอดรอโอนอยู่ที่ 119 ล้านบาท โดยมาจากโครงการที่อยู่ระหว่างการเปิดขายทั้งหมด 7 โครงการ (6 โครงการที่นนทบุรี และ 1 โครงการที่อุดรธานี)

โครงการที่เปิดตัวใหม่ในปี 2559 ที่ผ่านมา ได้แก่
1. โครงการ สิริวิลเลจ อุดรธานี-แอร์พอร์ต มูลค่าโครงการ 706 ล้านบาท จำนวน 179 ยูนิต พื้นที่ 39 ไร่ สินค้า บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ราคาขายเฉลี่ย 3.9 ล้านบาท/ยูนิต เปิดขายไปแล้วใน เดือนกุมภาพันธ์ 2559
2. โครงการ ธนาคลัสเตอร์ ราชพฤกษ์-สถานีบางพลู มูลค่าโครงการ 334 ล้านบาท จำนวน 77 ยูนิต พื้นที่ 8 ไร่ สินค้า ทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น ราคาขายเฉลี่ย 4.3 ล้านบาท/ยูนิต ได้ทำการเปิดขายไป เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา
3. โครงการ ธนาคลัสเตอร์ สถานีเซ็นทรัล-บางใหญ่ มูลค่าโครงการ 357 ล้านบาท จำนวน 77 ยูนิต พื้นที่ 10 ไร่ สินค้า ทาวน์เฮ้าส์และบ้านแฝด 3 ชั้น ราคาขายเฉลี่ย 4.9 ล้านบาท/ยูนิต

ในส่วนของแผนการดำเนินงานในปี 2560 บริษัทยังคงเน้นการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีเป็นหลักเนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ มีแผนงานการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคต่างๆ อย่างต่อเนื่องจากภาครัฐทั้งระบบการขนส่งมวลชนเพื่อรองรับการขยายตัวของชุมชน โดยมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการ รวมมูลค่า 995 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดของแต่ละโครงการ ดังนี้
1. โครงการธนาฮาบิแทต ปิ่นเกล้า-สิรินธร มูลค่าโครงการ 875 ล้านบาท 95 ยูนิต พื้นที่ 26.2 ไร่ สินค้าเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 190 – 300 ตารางเมตร บนขนาดที่ดิน 50 – 100 ตารางวา ราคาขายเฉลี่ย 9.2 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ (เลื่อนมาจากไตรมาส 4 ปี 59)
2. โครงการธนาซิโอ มูลค่าโครงการ 120 ล้านบาท 40 ยูนิต พื้นที่ 3.2 ไร่ ลักษณะสินค้าเป็น Town Home 3 ชั้น ราคาขายเฉลี่ย 3 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาโครงการในอนาคต บริษัทยังมีที่ดินที่รอการพัฒนาอยู่อีก 3 แปลง ได้แก่ ที่ดินริมถนนรัตนาธิเบศร์ (ด้านหน้าโครงการธนาสิริ - รัตนาธิเบศร์) ขนาด 2-0-87.9 ไร่ มูลค่าตามบัญชี 18.5 ล้านบาท ราคาประเมิน 107.5 ล้านบาท, ที่ดินเปล่า 4 ผืนในโครงการรัตนาธิเบศร์ (ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี) 0-3-94.6 ไร่ มูลค่าตามบัญชี 8.4 ล้านบาท ราคาประเมิน 17.4 ล้านบาท และที่ดินเปล่า กมลา (อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต) 105-2-76.9 ไร่ มูลค่าตามบัญชี 59.8 ล้านบาท ราคาประเมิน 777.9 ล้านบาท

“จากการประเมินแนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (ธอส.) พบว่ายังมีอีกหลายปัจจัยที่น่าสนใจ ประกอบด้วย ปัจจัยบวกซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่ง และรถไฟฟ้าสายสำคัญต่างๆ ที่คาดการณ์ว่าจะเปิดพื้นที่ใหม่ในปริมณฑล อีกทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค ผ่านการส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษคลัสเตอร์ และแผนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก รวมถึง มาตรการส่งเสริมการพัฒนาที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งรัฐบาลมุ่งมั่นผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรม จะช่วยสร้างตลาดใหม่ทดแทนยอดขายที่ชะลอตัวลง ขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยที่แท้จริงยังมีอยู่ในระบบ ต่างจากความต้องการซื้อเพื่อการลงทุนที่ลดลงอย่างชัดเจน ปัจจัยบวกดังกล่าวจะช่วยให้ภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2560 เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ ยังคงเน้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งถือว่า เป็นสุดยอดทำเลที่ระบบสาธารณูปโภคมีความสมบูรณ์ทั้งระบบ รวมทั้ง IKEA ที่จะเปิดในช่วงปลายปีนี้ก็จะช่วยสร้างความคึกคักและสมบูรณ์พร้อมเพิ่มขึ้นไปอีก โดยในปีนี้เรามีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่อีก 2 โครงการมูลค่า 995 ล้านบาท เพื่อรองรับเป้าหมายการเติบโตอีกกว่า 20%” กรรมการผู้จัดการ กล่าวในที่สุด

Businessbiweekly.net

 

Visitors: 1,330,822