“ไทยประกันภัย”ประกาศกร้าวพร้อมรุกบุกตลาดประกันภัยเต็มสูบ.!

ดึงมือดีจาก “อาคเนย์ประกันภัย” มาช่วยวางแผนเดินหน้าพัฒนาธุรกิจ
“ดร.อู้” ยันบริษัทฯแม่ระบุ “ไม่ทิ้ง ไม่ยุบ ไม่ควบรวมกิจการ” เด็ดขาด!

สตาร์บัคส์ ซ.หลังสวน / “ไทยประกันภัย”ประกาศกร้าว! พร้อมรุกบุกตลาดประกันภัยเต็มสูบต้นปีหน้า ดึงมือดีจาก“อาคเนย์ประกันภัย”เข้ามาวางแผนช่วยพัฒนาธุรกิจ พร้อมต่อยอดโครงการ “พี่ช้างคืนเงิน” ให้ลูกค้าที่มีประวัติการขับขี่รถยนต์ดีไม่เคยชนหรือเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงในรอบ 3 ปี โดยจะคืนเงินให้สูงถึง 50%คู่ขนานกับ “ชนปุ๊บ พี่ช้างแยกปั๊บ” หลังจากเปิดโครงการมาแล้ว และพร้อมสนับสนุนให้พนักงานมาส่วนร่วมแสดงความคิด โดยจัดประกวดความคิดสร้างสรรค์ ผุดผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ หวังดันยอดเบี้ยประกันฯเข้าเป้าปีนี้ 2,300 ล้าน ด้าน “ดร.อู้” ยัน บริษัทแม่พร้อมคงกิจการเก่าแก่ที่สุดเอาไว้ ระบุ “ไม่ทิ้ง ไม่ยุบ ไม่ควบรวมกิจการ” เด็ดขาด!

ดร.สมชัย สัจจพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ(TIC) พร้อมด้วยทีมงานบริหารระดับสูงของบริษัทฯ ประกอบไปด้วย นายวิศิษฐ์ โทนุสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ และดร.มหัทธนะ อัมพรพิสิฏฐ์ ได้ร่วมพูดคุยนอกรอบในการเปิดตัวครั้งแรกที่เข้ามารับหน้าที่ในการดำเนินงานของบริษัท ไทยประกันกันภัย กับผู้สื่อข่าวอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากที่เข้ามาตำแหน่งประธานกรรมการบมจ.ไทยประกันภัยว่า พร้อมที่จะดำเนินงานในการให้การบริการและพร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งต่อยอดโครงการ “พี่ช้างคืนเงิน” คู่ขนานกับ “ชนปุ๊บ พี่ช้างแยกปั๊บ” ซึ่งขณะนี้ได้มีการเตรียมคลอดแผนงานเชิงรุกต้นปีหน้า หลังดึง “มือดี” มาช่วยพัฒนาธุรกิจ และเปิดให้พนักงานมีส่วนร่วมส่งผลงานทางด้านนวัตกรรมใหม่ๆเข้าประกวดความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย

ดร.สมชัยกล่าวต่อไปอีกว่า หลังจากที่ได้มีการแถลงข่าวและมีการนำเสนอโครงการ “ชนปุ๊บ พี่ช้างแยกปั๊บ” ไปสู่สังคมไทย ถือว่ามีกระแสตอบรับดีมาก แม้ยอดการทำประกันในโครงการฯจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างพรวดพราด แต่ถือว่ามียอดที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่ได้ใช้งบประมาณเพื่อการโฆษณาผ่านสื่อกระแสหลัก อย่างเช่นสื่อโทรทัศน์ หรือหนังสือพิมพ์ชั้นนำแต่อย่างใด ซึ่งต่อจากนี้ไปคงจะมีการพิจารณาถึงการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อกระแสหลัก โดยเฉพาะป้ายโฆษณากลางแจ้งหรือ Bill Board ควบคู่ไปกับการใช้สื่อกระแสรอง อย่างเช่นสื่อโซเชียล มีเดีย รวมถึงการปรับปรุงเรื่องการทำประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ ว่าเรามีอะไรดีรวมไปถีงการทำกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) อื่นๆ ในโอกาสต่อไป

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ถือว่ามาไกลเกินระดับที่ 2,000 ล้านบาทแล้ว ตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาและ คาดว่าเป้าหมายทั้งปี ที่เราตั้งไว้ที่ระดับ 2,300 ล้านบาท ก็ไม่น่าจะยากจนเกินไปนัก เนื่องจากมีโครงการ “ชนปุ๊บ พี่ช้างแยกปั๊บ” มาช่วยกระตุ้น “ยอดเบี้ยประกันภัยรับใหม่” ซึ่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ดร.สมชัยได้กล่าวยืนยันว่า บริษัทฯเราเป็นบริษัทประกันภัยรายแรกของเมืองไทย ที่ได้รับตราสัญลักษณ์พญาครุฑพระราชทาน และมีการดำเนินงานมาจนครบปีที่ 81 นั้น จะไม่มีการยุบ ควบรวมหรือเลิกกิจการ บมจ.ไทยประกันภัยอย่างเด็ดขาด ส่วนการจะเพิ่มจำนวนสาขาที่มี 13 แห่งทั่วประเทศนั้น เบื้องต้นจะยังไม่เพิ่มสาขาในขณะนี้ รอจนกว่าแผนงานจะแล้วเสร็จ และมีความชัดเจนในเชิงนโยบายเสียก่อน จึงค่อยมาพิจารณากันใหม่อีกครั้งหนึ่ง

ด้านนายวิศิษฐ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้เราอยู่ระหว่างให้ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้การนำของ “ดร.เป้-มหัทธนะ อัมพรพิสิฏฐ์” อดีตข้าราชการระดับสูง ในสังกัดสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เข้ามาช่วยเหลืองานด้านพัฒนาธุรกิจและโครงการของบริษัทฯ เพื่อเร่งดำเนินการจัดทำแผนงานในปีหน้า(2562) โดยโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นล้วนสัมพันธ์กับเครือข่ายของบริษัทแม่ (เครือไทยเบฟฯ) เพียงแต่ยังต้องรอความชัดเจน และจะเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งในช่วงต้นปีหน้า ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเปิดโอกาสให้พนักงานได้คิดสร้างสรรค์และส่งประกวดโครงการ, ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เพื่อนำมาต่อยอดในแผนงานปีหน้าด้วย

นายวิศิษฐ์ยังกล่าวอีกว่า ปีหน้าบริษัทฯจะเดินเกมรุกในโครงการ “พี่ช้างคืนเงิน” ที่ได้ดำเนินการมาแล้ว 3 ปีเศษ เนื่องจากวงจรของธุรกิจและโครงการฯได้เดินมาจนครบรอบแล้ว จำเป็นจะต้องนำกลับไปต่อยอดและปรับเพิ่มข้อเสนและแรงจูงใจใหม่ๆ ที่ดีกว่า ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯจะคืนเงินให้ลูกค้าที่มีประวัติการขับขี่รถยนต์ดีมาก ไม่เคยชนหรือเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงในรอบ 3 ปี โดยจะคืนเงินให้สูงถึง 50% เชื่อว่าโครงการดีๆ เช่นนี้ จะอยู่ในความสนใจของลูกค้าและประชนทั่วไป นอกเหนือจากโครงการ “ชนปุ๊บ พี่ช้างแยกปั๊บ”

อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ นายสุรัตน์ ศรีสมบุญกุล กรรมการผู้จัดการฯ และ “ดร.อู้-สมชัย สัจจพงษ์” ได้กล่าวว่าจากนี้ไป บมจ.ไทยประกันภัย จะมีแผนงานใหม่ๆ ตามออกมา ทั้งการพัฒนาองค์กรและบุคลากร การพัฒนาเทคโนโลยี การสร้างบริการและผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ๆ โดยเฉพาะการได้รับแรงสนับสนุนจากเครือไทยเบฟฯ ที่พร้อมจะต่อเชื่อมโยงการดำเนินไปกับบริษัทร่วมเครือฯ อาทิ ซื้อเบี้ยประกันภัย รับสิทธิ์ส่วนลด หรือของแถมฟรี! ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร เครื่องดื่ม และอื่นๆ

ปัจจุบัน บมจ.ไทยประกันภัย มีเบี้ยประกันส่วนใหญ่มาจากกลุ่ม Motor ราว 65% ที่เหลืออีก 35% เป็นกลุ่ม Non Motor โดยช่องทางรายได้ส่วนใหญ่มาจากตัวแทนนายหน้าถึงกว่า 50% ที่เหลือมาจากการขายผ่านช่องทางธนาคาร, ลิสซิ่ง, เทเลคอม และอื่นๆ


ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 1,330,825