บ้านปู อินฟิเนอร์จี ลงทุนประมาณ 1,860 ล้านบาทในซันซีป ผู้ผลิตโซลาร์รายใหญ่ของสิงคโปร์

แลกเปลี่ยนความชำนาญ เตรียมแผนขยายตลาดต่างประเทศในอนาคต

บริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด (BPIN) ผู้ให้บริการด้านการวางระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร One Stop Service ด้วยเทคโนโลยีที่สะอาดและทันสมัย ภายใต้แนวคิด “Go Green Together” ประกาศการลงทุนครั้งสำคัญ ด้วยการเข้าซื้อหุ้นผ่านบริษัทลูก BPIN Investment Co., Ltd. จำนวนร้อยละ 25.7 ของซันซีป กรุ๊ป (Sunseap Group Pte Ltd.) ผู้นำด้านการให้บริการพลังงานแสงอาทิตย์รายใหญ่ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นหุ้นเพิ่มทุนที่ออกใหม่ มูลค่าประมาณ 75 ล้านเหรียญสิงคโปร์ (หรือเทียบเท่าประมาณ 55.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,860 ล้านบาท) ซึ่งภายหลังการซื้อหุ้นครั้งนี้จะทำให้บริษัท BPIN Investment เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในซันซีป กรุ๊ป ที่ปัจจุบันมีกำลังการผลิตในอยู่ที่ประมาณ 93.3 เมกะวัตต์ และจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 182.9 เมกะวัตต์ จากโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา

และภายใต้การเป็นพันธมิตรครั้งนี้ จะมีการถ่ายทอดโนว์ฮาวและประสบการณ์ของซันซีป กรุ๊ป จากการให้บริการลูกค้ายักษ์ใหญ่หลายรายในสิงคโปร์ ทั้งหน่วยงานรัฐบาล สถาบันการศึกษา และบริษัทชั้นนำระดับโลก อาทิ Apple, คณะกรรมการพัฒนาที่อยู่อาศัยแห่งสิงคโปร์ หรือ Housing Development Board, โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์อเมริกัน, สถาบันราฟเฟิลส์, กลุ่มเครือบริษัทยูไนเต็ด เทคโนโลยี, ท่าเรือจูร่ง, เอบีบี และพานาโซนิค ต่อยอดมาสู่ลูกค้าบ้านปู อินฟิเนอร์จีฯ ในประเทศไทย

นางสมฤดี ชัยมงคล กรรมการ บริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด กล่าวว่า “นอกจากการเร่งขยายตลาดในไทยแล้ว บ้านปู อินฟิเนอร์จีฯ ให้ความสำคัญในการเสริมรากฐานบริษัทให้มั่นคงและแข็งแกร่งด้วยความชำนาญ เพื่อสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจและส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในไทย ซึ่งการลงทุนครั้งนี้เกิดจากการที่บ้านปู อินฟิเนอร์จีฯ และซันซีป กรุ๊ป มีกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจและวิสัยทัศน์ตรงกันในการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาผนวกกับการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ การให้ความสำคัญในการบริการ และการดูแลระบบ พร้อมผนึกจุดแข็งของทั้งสองฝ่ายในด้านเครือข่ายทางธุรกิจและประสบการณ์ด้านพลังงาน เพื่อมุ่งพัฒนานวัตกรรมพลังงานสะอาดแก่ภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และสังคม ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญของ BPIN ในการเข้าไปสู่ประเทศที่มีรูปแบบการทำธุรกิจพลังงานที่ทันสมัยและมีศักยภาพการเติบโตในธุรกิจพลังงานสะอาด สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบ้านปูฯ Greener & Smarter ที่มุ่งมั่นพัฒนาสู่การเป็นบริษัทชั้นนำด้านพลังงานอย่างครบวงจร อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการขยายตลาดต่างประเทศของบ้านปู อินฟิเนอร์จีฯ ต่อไปในอนาคต”

การลงทุนครั้งนี้จะทำให้บ้านปู อินฟิเนอร์จีฯ ได้สัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นอีก 47 เมกะวัตต์ จากโครงการที่ได้เซ็นสัญญาแล้ว เสริมแกร่งการเดินหน้าสู่เป้าหมายการผลิต 300 เมกะวัตต์ ที่ตั้งไว้ในอีก 5 ปีข้างหน้า

Visitors: 1,330,830