กองทัพบก-ไทยประกันชีวิต ร่วมลงนามต่อสัญญาประกันชีวิตทหารต่อเนื่องปีที่ 32

มอบความคุ้มครองกำลังพลทุกระดับชั้น ทั้งยามปกติและยามสงคราม

นายไชย ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า กองทัพบกได้ร่วมกับบริษัทฯ ลงนามต่อสัญญาประกันชีวิตทหารต่อเนื่องเป็นปีที่ 32เพื่อมอบความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพปลดประจำการให้กับกำลังพลของกองทัพบกทุกระดับชั้น ทั้งในยามสงบและยามปฏิบัติหน้าที่ภาคสนามโดยมีระยะเวลาความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 – 31มีนาคม 2562เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับกำลังพลของกองทัพบกและครอบครัว รวมถึงตอบแทนความเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประเทศ

ไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกและแห่งเดียวในโลกที่รับประกันชีวิตทหารโดยมอบความคุ้มครองกำลังพลของกองทัพบกมาตั้งแต่ปี 2530 จนถึงปัจจุบัน ภายใต้กรมธรรม์ 3 แบบ ประกอบด้วย กรมธรรม์แบบภัยสงคราม ให้ความคุ้มครองกำลังพลที่ออกปฏิบัติหน้าที่ภาคสนามที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งในและนอกประเทศ ทั้งกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพจนถูกปลดประจำการ สำหรับนายทหารชั้นสัญญาบัตร, นายทหารชั้นประทวน, พลทหารประจำการ, พลทหารกองประจำการ, พลอาสาพิเศษอาสาสมัครทหารพราน, อาสาสมัครทหารพราน, ลูกจ้างประจำ, ลูกจ้างชั่วคราว และพนักงานราชการ

กรมธรรม์แบบพิทักษ์พล ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ สำหรับนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ, นักเรียนแพทย์ทหาร, นักเรียนพยาบาลกองทัพบก, นักเรียนนายสิบ, นักเรียนดุริยางค์ทหารบก, นักเรียนผู้ช่วยพยาบาลทหารบก และพลทหารกองประจำการ และกรมธรรม์แบบพิทักษ์พลพิเศษ ให้ความคุ้มครองข้าราชการและลูกจ้างที่ปฏิบัติหน้าที่ในยามปกติ ได้แก่ ข้าราชการชั้นสัญญาบัตร, ลูกจ้างประจำชั้นสัญญาบัตร, ข้าราชการชั้นประทวน ลูกจ้างประจำต่ำกว่าสัญญาบัตร, พลอาสาสมัคร, พลอาสาพิเศษ, อส.ทพ., อส.ทพ., ลูกจ้างชั่วคราว และพนักงานราชการ รวมถึงคุ้มครองกรณีปฏิบัติภารกิจการใช้อากาศยาน จะได้รับความคุ้มครองเป็น 2 เท่า

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ขยายความคุ้มครองสำหรับกำลังพลของกองทัพอากาศ โดยให้ความคุ้มครองแก่นักบินและกำลังพลที่อยู่ในแผนป้องกันประเทศ หรือเป็นผู้ได้รับเงินค่าฝ่าอันตราย กำลังพลที่สนับสนุนการปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงกำลังพลที่อยู่ตามพื้นที่เสี่ยงภัยอื่นๆ และขยายความคุ้มครองกำลังพลของกองทัพเรือ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนใต้ จังหวัดจันทบุรีและตราด และหน่วยเฉพาะกิจที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพื้นที่ชายแดน รวมถึงกำลังพลของกองบัญชาการกองทัพไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนใต้ และกำลังพลของหน่วยงานสังกัดกระทรวงกลาโหม

“การรับประกันชีวิตทหาร ถือเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม โดยบริษัทฯ มิได้แสวงหากำไร หากปีใดมีการจ่ายสินไหมทดแทนต่ำกว่าเบี้ยประกันรับ บริษัทฯ จะคืนเงินส่วนเกินแก่กองทัพบกเพื่อนำไปใช้เป็นสวัสดิการต่อไป สอดคล้องกับพันธกิจของบริษัทฯ ในการเป็นองค์กรที่ดีของสังคมไทย ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้จ่ายสินไหมทดแทนแก่ทหารที่บาดเจ็บและเสียชีวิตรวมกว่า16,700 นาย คิดเป็นเงินสินไหมทดแทนรวมกว่า1,069 ล้านบาท” นายไชยกล่าว

ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทฯ ยังสนับสนุนภารกิจของทหารในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ อาทิ ร่วมกับกองทัพภาคที่ 2 นำพนักงานและตัวแทนจิตอาสา จัดทำถุงยังชีพและอาหารกล่อง รวมมูลค่า 120,000 บาท ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น มอบผ้าห่มกันหนาวจำนวน 200 ผืน ผ่านศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และความมั่นคงเขตพื้นที่พัฒนาที่ 3 เพื่อบรรเทาภัยหนาวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดตาก และมอบผ้าห่ม จำนวน 500 ผืน ผ่านศูนย์จัดระบบป้องกันเพื่อจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ค่ายตากสิน เพื่อนำไปมอบให้แก่ประชาชาชนที่ยากไร้และขาดแคลนในพื้นที่

นอกจากนี้ ยังสนับสนุนกิจกรรมอื่นๆ อาทิ กิจกรรม “ไทยประกันชีวิต - มหาวิทยาลัยแม่โจ้ สืบสานศาสตร์พระราชา สู่วิถีแห่งความพอเพียง” ในการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการการเกษตรแบบผสมผสาน ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ให้แก่กำลังพลในสังกัด มทบ.33 ค่ายกาวิละ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์และฝึกการเป็นผู้ฝึกสอนกำลังพลให้มีความรู้ด้านการเกษตรติดตัวหลังปลดประจำการตามนโยบายของกองทัพ

การจัดสร้างสนามเด็กเล่น “BBL สร้างภูมิปัญญา พัฒนาสมอง” ให้แก่อาคารสงเคราะห์กองทัพบก (ส่วนกลาง) เกียกกาย ในความดูแลของกรมสวัสดิการทหารบก ซึ่งนับเป็นแห่งที่ 3ต่อจากโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์อนุบาลค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา และโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์อนุบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี รวมถึงสนับสนุนสโมสรฟุตบอลอาร์มี่ ยูไนเต็ด ในสังกัดกองทัพบก และสนับสนุนการแข่งขัน รายการมวยรอบไทยประกันชีวิตแก่กรมสวัสดิการทหารบก เพื่อส่งเสริมกิจการด้านกีฬาของกองทัพบก เป็นต้น

Visitors: 1,330,826