BAM แต่งตั้ง “สมพร มูลศรีแก้ว” นั่งเก้าอี้เอ็มดี

คณะกรรมการบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ในการประชุมครั้งที่ 9/2561 เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2561 และโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง ให้แต่งตั้งนายสมพร มูลศรีแก้วดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2561เป็นต้นไป

นายสมพร มูลศรีแก้ว ปัจจุบันอายุ 58 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า)เริ่มงานกับ BAM ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2541 ในตำแหน่งผู้จัดการสำนักงานวารินชำราบ ฝ่ายพัฒนาสินทรัพย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจากนั้นในปี 2547 ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนาสินทรัพย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในปี 2550 ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาสินทรัพย์ภาคเหนือตอนล่าง และในปีเดียวกันได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายจำหน่ายทรัพย์และรักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายจัดการทรัพย์

หลังจากนั้นในปี 2552 ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพัฒนาสินทรัพย์ภูมิภาคและในปี 2554 ขึ้นดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพัฒนาสินทรัพย์ภูมิภาค ปี 2555 ดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพัฒนาสินทรัพย์ภูมิภาค และรักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพัฒนาสินทรัพย์สำนักงานใหญ่ ปี 2556 ดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายจำหน่ายและจัดการทรัพย์ ในปี 2558 ดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายจำหน่ายทรัพย์ และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2561

ในด้านการฝึกอบรม ได้เข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง เช่นโครงการสัมมนาผู้บริหารธนาคารและสถาบันการเงิน(Financial Executive Development Program – FINEX)รุ่นที่ 17,การบริหารการตลาด สร้างภาพลักษณ์และลูกค้าสัมพันธ์ยุคใหม่ สำหรับผู้บริหารภาครัฐและเอกชน , การขับเคลื่อนกลยุทธ์ไปสู่ความสำเร็จ และนโยบายเศรษฐกิจการคลังการเงินในยุคเปลี่ยนผ่าน มุมมองจากอดีตสู่อนาคต เป็นต้น

นายสมพร มูลศรีแก้ว กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ขององค์กรวางไว้ว่า “BAM มุ่งสู่การเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ดีที่สุดของประเทศ” ที่มุ่งสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติและสังคม ซึ่งในการเข้ารับตำแหน่งครั้งนี้จะสืบสานภารกิจดังกล่าวด้วยการเน้นการพัฒนาระบบงาน บุคลากร และเทคโนโลยี เพื่อรองรับการเป็นบริษัทมหาชน และเป็นเสาหลักในการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในระบบเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

Visitors: 1,330,821