สมาคมประกันชีวิตไทย เตือนอย่าลืมใช้สิทธิเบี้ยประกันชีวิตและประกันสุขภาพลดหย่อนภาษี

นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาของการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของประชาชนคนไทย โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 จนถึง วันที่ 31 มีนาคม 2561 ในการนี้สมาคมประกันชีวิตไทยขอแจ้งเตือนท่านที่มีประกันชีวิตและประกันสุขภาพอย่าลืมใช้สิทธิดังกล่าวเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้ โดยกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีกำหนดระยะเวลาคุ้มครอง ตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไป สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตที่ชำระมาลดหย่อนภาษีเงินได้สูงสุดถึง 100,000 บาท ส่วนประกันชีวิตแบบบำนาญสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตที่ชำระไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 200,000 บาท และล่าสุดภาครัฐได้ให้ความสำคัญกับการสร้างหลักประกันเพื่อดูแลสุขภาพ จึงได้มีมติเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2560 ให้สามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพตามจำนวนที่จ่ายจริงมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้อีก 15,000 บาท แต่เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท

สำหรับผู้ที่ซื้อประกันสุขภาพในปี 2560 เพื่อที่จะนำมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในปี 2561 สามารถนำใบเสร็จหรือหนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันสุขภาพจากบริษัทประกันชีวิตหรือบริษัทประกันภัยที่ระบุข้อความต่อไปนี้

1. ชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกันภัยซึ่งเป็นผู้มีเงินได้และจ่ายเบี้ยประกันจากเงินได้นั้น2. ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของบริษัทประกัน 3. จำนวนเบี้ยประกันสำหรับการประกันสุขภาพ 4. จำนวนเงินที่มีสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ มายื่นใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ เพราะถือเป็นปีแรกของการได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี

ทั้งนี้ ในปี 2561 ผู้ที่ต้องการใช้สิทธิในการหักลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันสุขภาพจะต้องแจ้งความประสงค์ขอใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้กับบริษัทประกันชีวิตที่ตนเองทำประกันสุขภาพไว้ โดยลงนามยินยอมในเอกสารให้บริษัทประกันชีวิตเปิดเผยข้อมูลและนำส่งข้อมูลดังกล่าวให้กรมสรรพากร เพื่อขอรับสิทธิลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาในปี 2560 หากไม่ลงนามยินยอมในเอกสารจะไม่สามารถขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 315) ประกาศ ณ วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2560 นายกสมาคม
ประกันชีวิตไทย กล่าว

Visitors: 1,330,830