กลุ่มบริษัทเอไอเอ รายงานผลการดำเนินงานธุรกิจใหม่ในไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2562

มูลค่าธุรกิจใหม่เติบโตขึ้นร้อยละ 1 และเติบโตขึ้นร้อยละ14 เมื่อไม่รวมฮ่องกง

ฮ่องกง, 28 ตุลาคม 2562 – กลุ่มบริษัทเอไอเอ ( “บริษัท” รหัสตลาดหลักทรัพย์: 1299) รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2562

อัตราการเติบโตที่รายงานคิดจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ ตามรายละเอียดด้านล่าง
* มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เป็น 980 ล้านเหรียญสหรัฐ
* การเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ในมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เมื่อไม่รวมฮ่องกง
* เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) ลดลงร้อยละ 8 เป็น 1,444 ล้านเหรียญสหรัฐ
* อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) เพิ่มขึ้น 6.0 จุด คิดเป็นร้อยละ 67.0
* เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เป็น 8,168 ล้านเหรียญสหรัฐ

นายอึง เค็ง ฮุย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า “เอไอเอ มีผลการดำเนินงานด้วยอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) คิดเป็น 980 ล้านเหรียญสหรัฐ ในสภาวะการดำเนินธุรกิจที่ท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ปัจจุบันในฮ่องกง โดยเมื่อไม่คิดรวมฮ่องกง มูลค่าธุรกิจใหม่ของกลุ่มบริษัทเอไอเอเติบโตขึ้นร้อยละ 14 เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2561 และประเทศจีนยังคงเป็นตลาดที่มีการเติบโตเร็วที่สุดของเรา

“ผมมีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งถึงการเติบโตในระยะยาวของกลุ่มบริษัทเอไอเอ ด้วยแรงขับเคลื่อนที่มาจากการเติบโตของโครงสร้างธุรกิจและประสบการณ์ที่สั่งสมมานาน จนทำให้การดำเนินธุรกิจในหลากหลายตลาดประสบความสำเร็จ แม้จะประสบอุปสรรค กลุ่มบริษัทเอไอเอทั่วทั้งภูมิภาคจะยังคงได้รับประโยชน์ในระยะยาวจากความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในตัวผลิตภัณฑ์ของเรา ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของประชากรชนชั้นกลาง

“ทั้งนี้ เรายังคงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามคำมั่นสัญญา และสร้างผลลัพธ์ที่ดีแก่ชีวิตของผู้คน โดยเราจะดำเนินงานด้วยการดำเนินยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน และใช้ช่องทางจัดจำหน่ายที่หลากหลายของเราอย่างมีคุณภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่มบริษัทเอไอเอและการเป็นผู้นำตลาด เป็นสิ่งที่สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของเรา ว่าเราจะช่วยปกป้องสุขภาพและความมั่นคงทางการเงินของพวกเขาได้ในอนาคต ทีมงานของเรายังคงมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพและส่งมอบผลประโยชน์ในระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้นของเรา”

สรุปผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3
มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตร้อยละ 1 คิดเป็น 980 ล้านเหรียญสหรัฐ เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2561 ทั้งนี้ การเติบโตของช่องทางเอเจนซีและพันธมิตรธนาคารสวนทางกับการลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญในมูลค่าธุรกิจใหม่ผ่านช่องทางที่ปรึกษาทางการเงินอิสระในฮ่องกง อย่างไรก็ตามมูลค่าธุรกิจใหม่ของกลุ่มบริษัทเอไอเอเติบโตขึ้นร้อยละ 14 ในไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2562 เมื่อไม่คิดรวมฮ่องกง

ธุรกิจของเราในฮ่องกงรายงานการลดลงเป็นตัวเลขสองหลักของมูลค่าธุรกิจใหม่ในไตรมาสที่ 3 ทั้งนี้ การเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักในมูลค่าธุรกิจใหม่จากลูกค้าภายในประเทศสวนทางกับการลดลงของมูลค่าธุรกิจใหม่จากนักท่องเที่ยวจีนซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าฮ่องกงโดยรวมลดลง จากการรายงานเมื่อเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม

ธุรกิจของเอไอเอในประเทศจีนยังคงมีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่แข็งแรง และยังคงเป็นตลาดที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในไตรมาสที่ 3 กลยุทธ์การรับสมัครพรีเมียร์ เอเจนซี (Premier Agency) และโปรแกรมการฝึกอบรมของเรา ช่วยสนับสนุนการเติบโตของทั้งพนักงานใหม่และพนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่อย่างมาก นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานที่มาจากการเปิดศูนย์ให้บริการการขายในเมืองเทียนจิน และเมืองฉือเจียจวง ในมณฑลเหอเป่ย ได้รับผลตอบรับที่ดี และเรายังคงเตรียมพร้อมในการหาพื้นที่ที่เหมาะสมแก่การขยายธุรกิจของเราเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม

ธุรกิจของเราในประเทศไทยเติบโตจากช่องทางตัวแทนและช่องทางพันธมิตร ซึ่งทำให้เกิดมูลค่าธุรกิจใหม่ที่แข็งแกร่งซึ่งการปรับเปลี่ยนช่องทางตัวแทนของเราทำให้เราเห็นการเติบโตของตัวแทนที่มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น รวมถึงพันธมิตรของเราอย่างธนาคารกรุงเทพ ก็มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ธุรกิจของเอไอเอที่ประเทศสิงคโปร์ มีผลการดำเนินงานของมูลค่าธุรกิจใหม่คงที่ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2561 เนื่องด้วยการลดลงของธุรกิจเบี้ยประกันจ่ายครั้งเดียวสวนทางกับกับการเติบโตของเบี้ยประกันรายงวด นอกจากนี้ เรามีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่มั่นคงในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของทั้งช่องทางตัวแทนและพันธมิตร

การเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ในประเทศอื่นๆ เป็นผลมาจากการดำเนินงานอย่างแข็งแกร่งจากธุรกิจในประเทศอาเซียนของเรา ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม โดยเอไอเอในประเทศออสเตรเลีย มีมูลค่าธุรกิจใหม่ที่ลดลง เนื่องมาจากระยะเวลาของแผนการรวมกลุ่มขนาดใหญ่ ตามรายงานก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ หากไม่นับรวมผลกระทบจากแผนการรวมกลุ่มขนาดใหญ่ ประเทศอื่นๆ ของเอไอเอ มีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่เป็นตัวเลขสองหลัก เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2561

โดยภาพรวม เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) ลดลงร้อยละ 8 เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2561 คิดเป็น 1,444 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) มีการพัฒนาคิดเป็นร้อยละ 67.0 เพิ่มขึ้น 6.0 จุด ซึ่งเป็นผลมาจากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และภูมิศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสมมติฐานการทำงาน และผลกระทบที่ดีจากการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบทางภาษี ที่ได้เพิ่มการลดหย่อนภาษีของค่านายหน้าในประเทศจีน อัตรากำไรของมูลค่าปัจจุบันของเบี้ยประกันภัยธุรกิจใหม่ (PVNBP) เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จาก ร้อยละ 10 ในไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2561 ทั้งนี้ การสมมติฐานเชิงเศรษฐกิจระยะยาวยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากรายงานประจำปี 2561 ของเรา รวมทั้งวิธีการที่เราใช้ในการรายงานผลการดำเนินงานธุรกิจใหม่ประจำไตรมาสยังคงเหมือนเดิม นอกจากนี้ เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 คิดเป็น 8,168 ล้านเหรียญสหรัฐ เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2561

มุมมองด้านเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นผลมาจากความหลากหลายทางเศรษฐกิจ และนโยบายเศรษฐกิจมหภาคเชิงรุก  ในขณะที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจมีการชะลอตัว  แต่แรงขับเคลื่อนภายในประเทศจากอุปสงค์ และแนวโน้มด้านประชากรศาสตร์หลักในภูมิภาคเอเชียจะส่งผลด้านบวกต่อธุรกิจของเอไอเอในระยะยาว  ตลาดของเอไอเอในบางประเทศกำลังเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ความมั่นใจของผู้บริโภคที่ลดลง และความตึงเครียดด้านการเมืองและการค้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จำนวนของผู้เดินทางจากประเทศจีนไปยังฮ่องกงที่ลดลงได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ความต้องการในผลิตภัณฑ์ประกันของเอไอเอจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว เนื่องจากอัตราการทำประกันชีวิตของคน รวมถึงความคุ้มครองจากสวัสดิการสังคมยังอยู่ในอัตราที่ต่ำ ความแข็งแกร่งของช่องทางจัดจำหน่าย บวกกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมของเอไอเอ จะสร้างโอกาสในการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพในเอเชียในระยะยาว

ความผันผวนด้านอัตราแลกเปลี่ยน
เอไอเอได้รับเบี้ยประกันภัยส่วนใหญ่เป็นเงินสกุลท้องถิ่น ซึ่งทำให้สินทรัพย์และหนี้สินของเรามีมูลค่าใกล้เคียงกัน ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ ในรายงานงบการเงินของกลุ่มบริษัท เอไอเอ ที่มีการแปลเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เกิดผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน  ดังนั้น เราจึงมีการรายงานอัตราการเติบโตจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ เว้นแต่ระบุเป็นอย่างอื่น เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนของผลการดำเนินธุรกิจระหว่างปี 

ข้อระมัดระวัง
บริษัทให้ความสำคัญอย่างมากกับการส่งต่อข้อมูลที่อ้างถึงความเชื่อมโยงในส่วนงานที่เฉพาะเจาะจงของบริษัทใน 3 ไตรมาสแรกประจำปี 2562 ข้อมูลในคำถามนั้นไม่มีความสมบูรณ์และไม่ได้สะท้อนผลการดำเนินงานทางด้านการเงินของส่วนงานที่สำคัญหรือของบริษัทในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้น บริษัทจึงได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญของธุรกิจใหม่สำหรับไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2562 ก่อนเวลาที่กำหนด เพื่อให้มั่นใจว่าความมั่นคงของตลาดสำหรับการค้าหลักทรัพย์ของบริษัทจะยังคงดำเนินอยู่

ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนที่มีศักยภาพไม่ควรเชื่อถือข้อมูลใดๆ นอกเหนือจากข้อมูลประกาศอย่างเป็นทางการของบริษัท และไม่ควรใช้ข้อมูลที่ไม่เป็นทางการเป็นข้อมูลหลักในการตัดสินใจลงทุนที่เกี่ยวกับหลักทรัพย์ของบริษัท เนื่องด้วยข้อมูลเหล่านั้นไม่ได้นำเสนอมุมมองที่ถูกต้องและสมบูรณ์ถึงผลการดำเนินงานของบริษัท


ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 1,330,822