ประกันภัยไทยวิวัฒน์ เผยเบี้ยรับสามไตรมาสปีนี้ เติบโตถึง 20%
เป็นผู้นำขับเคลื่อนนวัตกรรมประกันภัย พร้อมเดินหน้าพัฒนาตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างไม่หยุดยั้ง
บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) เผยผลประกอบการรวม 3 ไตรมาส ปี 2561 ด้วยเบี้ยประกันภัยรับกว่า 3,106 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนกว่า 505 ล้านบาท ถือว่าเติบโตถึง 20% และมีผลกำไรสำหรับงวด 9 เดือนเติบโตเกือบ 3 เท่าจากปีที่แล้ว และคาดว่าปีหน้าโตต่อเนื่อง จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการโดยมุ่งใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเสริมสร้างนวัตกรรมประกันภัยอย่างไม่หยุดยั้งมาตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างแท้จริง
คุณจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการจากการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1-3 ของปี 2561 ว่าบริษัทสามารถทำยอดขาย รายได้และกำไร เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยมีเบี้ยรับรวม 3 ไตรมาสอยู่ที่ 3,106.04 ล้านบาท มากกว่าปีก่อน 505.08 ล้านบาท พร้อมทั้งมีผลกำไรสำหรับงวด 9 เดือน 148.57 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 110.86 ล้านบาท ซึ่งปีนี้เบี้ยรับของบริษัทฯเติบโตมากขึ้นเกือบ 20% และผลกำไรเติบโตถึงเกือบ 3 เท่า โดยตลาดประกันภัยโดยรวมเติบโตประมาณ 7% จากภาพรวมธุรกิจประกันวินาศภัยที่มีแนวโน้มการเติบโตค่อนข้างดี มีผลมาจากทั้งภาพรวมเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น มีการขยายตัวของการนำเข้าและส่งออกสินค้า รวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับค่ายรถยนต์ต่างๆ มีการออกรถรุ่นใหม่ๆ เข้ามาในตลาดทำให้ตลาดรถยนต์มีความคึกคักและ รัฐก็มีการส่งเสริมให้มีการลงทุน และมีมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ส่งผลให้ตลาดโดยรวมค่อนข้างเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นทางประกันภัยไทยวิวัฒน์ได้มี การพัฒนาอย่างต่อเนื่องในเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการบริการที่เหนือกว่า โดยยึด Insights ของผู้บริโภคเป็นหลักสำคัญ และนำเทคโนโลยีใหม่มาช่วยเสริมสร้างนวัตกรรมประกันภัยให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผลประกอบการมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งถือได้ว่าเป็นข้อพิสูจน์ที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ถึงการตอบรับที่ดีของผู้บริโภคอย่างล้นหลาม
ในปี 2561 ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ได้นำนวัตกรรมประกันภัยมาเปลี่ยนโฉมวงการประกันภัยสู่ตลาดประเทศไทย โดยใช้เทคโนโลยี และ การคิดค้น ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างออกไป ให้ผู้ใช้บริการ มีทางเลือกมากยิ่งขึ้น พร้อมตอบโจทย์ Lifestyle ลูกค้าในการดำเนินชีวิตในโลกปัจจุบัน โดยผลิตภัณฑ์ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจากปีก่อนคือ ประกันรถเติมเงินไทยวิวัฒน์ หรือประกันรถเปิดปิด ผลิตภัณฑ์นี้ได้มอบทางเลือกให้ผู้บริโภคที่ใช้รถทั่วไปสามารถจ่ายค่าเบี้ยประกันรถยนต์ ตามเวลาที่ใช้รถจริง เวลาไม่ได้ใช้รถก็ไม่ต้องจ่ายค่าประกัน ทำให้ประหยัดค่าเบี้ยไปได้ถึง 40% ล่าสุดได้มีการนำเทคโนโลยี IoT มาอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเปิดปิดประกันแบบอัตโนมัติ ประกันจะเปิดโดยอัตโนมัติเมื่อมีการ Start เครื่องยนต์ และปิดเมื่อมีการดับเครื่อง นอกจากนั้นยังมี feature การแจ้งเหตุ และการต่ออายุกรมธรรม์ที่สะดวกและรวดเร็ว ส่งผลให้มีผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจในประกันรถเติมเงินไทยวิวัฒน์มากยิ่งขึ้น รวมไปถึง ผู้ใช้รถที่อาจไม่เคยมีประกันภาคสมัครใจมาก่อน ที่หันมาให้ความสำคัญกับทำประกันภัยแบบครบวงจรเพื่อลดความเสี่ยงในชีวิตและทรัพย์สินของตน เนื่องจากประกันภัยรถยนต์แบบเปิดปิดนี้ สามารถเลือกซื้อได้ตามระยะเวลาที่ต้องการ ทำให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก แต่ยังคงได้ความคุ้มครองที่ครบถ้วน นอกจากการใช้งานของประกันรถเติมเงินที่สะดวกและตอบโจทย์คนรุ่นใหม่แล้ว ยังส่งผลดีกับทางบริษัทด้วยอัตราการต่ออายุของประกันรถเติมเงินที่สูงมากเมื่อเทียบกับอัตราการต่ออายุของประกันรถยนต์ทั่วไป และอัตราสินไหมของประกันรถเติมเงินที่ต่ำกว่าประกันรถยนต์ทั่วไปด้วยเช่นกัน พร้อมกันนี้ในปีต่อไปจะมีการทำการตลาดและจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวนี้อย่างไม่หยุดยั้งแน่นอน โดยในปีที่ผ่านมาได้ทำกิจกรรมมากมาย เช่น Car Rally กับลูกค้าประกันรถเติมเงิน และล่าสุดได้ออก campaign เสียงจากผู้ใช้งานจริงเป็นการให้ลูกค้าประกันรถเติมเงินตัวจริงเสียงจริง ได้พูดถึงความรู้สึกจากการใช้งานประกันรถเติมเงิน ซึ่งจะเปิดตัวมาให้ได้ดูกันเร็วๆนี้ และในต้นปีหน้าประกันภัยไทยวิวัฒน์จะมีการเปิดตัว feature การใช้งานใหม่ๆอย่างแน่นอน
ส่วนอีกผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ในปีนี้เป็นที่พูดถึงมากเช่นกันก็คือ ประกันภัยการเดินทางไทยวิวัฒน์ ที่นอกจากจะโดดเด่นในด้านความคุ้มครองและการบริการที่เหนือกว่าทุกที่ ด้วยการบริการแบบไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั่วโลก ไม่จำกัดอายุผู้เอาประกัน และ ไม่จำกัดประเทศที่เดินทางแล้ว ยังให้ความคุ้มครองในด้านการบาดเจ็บจากกีฬาเสี่ยงภัยเช่น การเล่นสกี ดำน้ำ หรือ บันจี้จัมพ์ พร้อมทั้งยังมีศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์และการเดินทางพร้อมดูแลอยู่ทั่วโลกตลอด 24 ชม. และให้บริการเป็นภาษาไทยได้ด้วย โดยประกันภัยไทยวิวัฒน์ได้ต่อยอดผลิตภัณฑ์นี้ โดยนำความต้องการของลูกค้ามาสร้างผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ที่ออกนอกกรอบเดิมของการประกันภัยการเดินทางทั่วไป นั้นก็คือ ประกันเดินทาง เปิด-ปิด ที่ใช้ได้ผ่าน Application “Thaivivat Travel” เป็นประกันเดินทางที่ตอบโจทย์นักเดินทางอย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะมอบความคุ้มครองและการบริการที่ได้กล่าวเบื้องต้นแล้วนั้น ยังมอบความยืดหยุ่นให้ลูกค้าสามารถขยายหรือลดวันเดินทางได้เอง พร้อมทั้งยังสามารถนำวันเดินทางที่เหลือมาใช้ในทริปต่อไปได้อีกด้วย พร้อมทั้งยังมี Features การเดินทางอีกมากมายใน application นี้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างทริปการเดินทาง การดูแผนความคุ้มครอง หรือแม้แต่การโทรหาศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉิน ถือว่าเป็นประกันการเดินทางที่ล้ำที่สุดในตลาด ให้ความคุ้มค่าและความสะดวก ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ทุกครั้งที่เดินทาง จ่ายตามวันเดินทางจริง พร้อมสามารถ Top-up วันเดินทางผ่านแอพพลิเคชันได้เลยทันทีแม้อยู่ต่างประเทศ นอกจากนั้นยังให้ความสะดวกในการเดินทางไปและกลับจากสนามบิน ด้วยการมอบ Code ส่วนลด Grab อีกด้วย ถือว่าตรงใจ Lifestyle ผู้บริโภคเป็นอย่างมากทำให้ยอดขายประกันเดินทางในปีนี้ของประกันภัยไทยวิวัฒน์ก้าวกระโดด ซึ่งในปี 2019 ประกันภัยไทยวิวัฒน์ก็พร้อมที่จะขยายการบริการของประกันเดินทางมากยิ่งขึ้นอีกซึ่งต้องมาติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด
และล่าสุดประกันภัยไทยวิวัฒน์ได้เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่กับ ประกันภัยสุขภาพ “ไทยวิวัฒน์ แอคทีฟ เฮลท์” ซึ่งได้สร้างความน่าสนใจและความแตกต่างในตลาดประกันสุขภาพครั้งสำคัญ เพราะเป็นประกันสุขภาพที่สนับสนุนให้คนไทยหันมาออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพไปด้วยกัน โดยใช้เทคโนโลยี IoTร่วมกับอุปกรณ์ Smart watch และนวัตกรรมด้าน Wearable Technology บน แอพพลิเคชัน “Thaivivat Health” ซึ่งได้สร้างแรงกระตุ้นให้ผู้บริโภคแอคทีฟ เพราะเมื่อยิ่งออกกำลังกายเบี้ยประกันก็จะยิ่งลด ทุกเดือนสูงถึง 40% โดยที่ไม่ต้องรอรับส่วนลดนี้ในปีต่ออายุประกันอีกต่อไป แต่ลดให้เลยในเบี้ยเดือนถัดไป ผลิตภัณฑ์ Thaivivat Active Health นี้ให้ลูกค้าสามารถดูคะแนน ความ Active ด้วยก้าวเดิน และนาทีการออกกำลังกายได้เป็นรายวัน พร้อมสรุปส่วนลดค่าเบี้ยประกันทุกอาทิตย์และนำมาหักจากค่าเบี้ยที่มีการเรียกเก็บในเดือนถัดไปโดยทันที นอกจากนั้น ลูกค้าประกันสุขภาพไทยวิวัฒน์ แอคทีฟ เฮลท์ ยังจะได้รับอุปกรณ์ Smart Watch Fitbit รุ่น Versa มูลค่า 8,500 บาทในทันทีเพื่อนำมาวัดความ Active โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่อย่างใด พร้อมกันนี้ ประกันภัยไทยวิวัฒน์ยังได้จับมือร่วมกับพันธมิตรต่างๆมากมาย อาทิ JOOX, Grab food, Fitbit รวมถึงสถาบันการออกกำลังกายและศูนย์ Fitness ต่างๆ เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ผู้ใช้บริการเช่นการสร้าง Playlist เพลงที่เหมาะกับการออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ ของ JOOX สำหรับลูกค้าไทยวิวัฒน์ แอคทีฟ เฮลท์ และส่วนลดการสั่งอาหาร จาก Grab Food และที่สำคัญยังมีโปรโมชั่น จาก Boutique Gyms อีกมากมาย ที่มีการ Update ทุก 15 วันให้ลูกค้าสามารถ ไปออกกำลังกายในที่ใหม่ๆได้ตลอดเวลา เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพให้ผู้บริโภคยุคใหม่อย่างครบวงจร หลังจากเปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา พบว่าได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่นอกจากจะให้ความคุ้มครองสุขภาพแบบ Exclusive แล้ว ยังเป็นตัวช่วยผลักดันให้ออกกำลังกายที่ดี และทำให้ลูกค้าทุกคนมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ด้าน คุณเทพพันธ์ อัศวะธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ กล่าวต่อว่า ในปี 2561 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่ประกันภัยไทยวิวัฒน์ประสบความสำเร็จ ในการพัฒนานวัตกรรมประกันภัยอย่างต่อเนื่อง เพราะประกันภัยไทยวิวัฒน์สามารถคว้ารางวัล ประกันภัยดีเด่นครบวงจร(Prime Minister’s Insurance Awards)ประจำปี2561ในงาน“THAILAND INSURANCE EXPO 2018” โดย คุณจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) ขึ้นรับรางวัล "สร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีด้านประกันภัยดีเด่น" ซึ่งเป็นบริษัทแรกและบริษัทเดียวที่ได้รับรางวัลนี้ จากนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขณะเดียวกันประกันภัยไทยวิวัฒน์ยังได้รับมอบโล่รางวัลและประกาศนียบัตร รับรองความสามารถทางนวัตกรรมและองค์กรนวัตกรรม(Innovative Organization) จากโครงการส่งเสริมความสามารถทางนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย จากนายวิเชฐ ตันติวานิช กรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ในงานเสวนา "องค์กรนวัตกรรม..สู่ความยั่งยืนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย" ซึ่งถือเป็นสุดยอดของความภาคภูมิใจ และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ด้านนวัตกรรมประกันภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ภายใต้วิสัยทัศน์ "คิดเผื่อเพื่อทุกชีวิต" อีกทั้งยังเป็นการสร้างกำลังใจแก่บริษัทฯ เพื่อพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีด้านประกันภัยต่อไปในอนาคต
อย่างไรก็ตาม สำหรับทิศทางการดำเนินงานของปี 2562 คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น และเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงเน้นกลยุทธ์การรักษาอัตราการต่ออายุของลูกค้าปัจจุบัน และการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาช่วยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ใช้บริการและขยายฐานลูกค้าแบบเจาะลึกให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันและพฤติกรรมของแต่ละบุคคล เนื่องจากปัจจุบันเทรนด์ผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสนใจด้านเทคโนโลยีหรือดิจิทัลมากขึ้นและถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้นการมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมโดยนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ประโยชน์ในด้านประกันภัยนั้นจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นซึ่งคาดว่าในปี 2562 ประกันภัยไทยวิวัฒน์จะมีผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการออกมาอย่างแน่นอน
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments