เมืองไทยประกันชีวิตเพิ่ม 5 กองทุนเสริมศักยภาพ mDesign และ mOne

ขยายทางเลือกการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น

เมืองไทยประกันชีวิตตอบโจทย์ความต้องการประกันชีวิตควบการลงทุน เพิ่ม 5 กองทุนใหม่ ขยายทางเลือกกระจายการลงทุนสินทรัพย์ผ่านกองทุนรวมที่คัดสรรมาอย่างดี ตอบสนองความต้องการของลูกค้า มุ่งสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าความเสี่ยง ให้การลงทุนของลูกค้าไร้ขีดจำกัด ด้วยทางเลือกการลงทุนในต่างประเทศ

นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิตได้เตรียมเพิ่มกองทุนรวมใหม่ 5 กองทุน ที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน mDesign และ mOne จากเดิมที่มีอยู่ 27 กองทุน เพิ่มเป็น 32 กองทุน ครอบคลุมสินทรัพย์ทางการเงินมากขึ้น เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเลือกจัดพอร์ตกองทุนรวมได้หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกระดับความเสี่ยง

“จากความผันผวนของการลงทุนในประเทศ รวมถึงภาวะอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันที่ยังคงทรงตัวในระดับต่ำ เมืองไทยประกันชีวิตเล็งเห็นถึงความสำคัญของการขยายโอกาสการลงทุนไปยังต่างประเทศ เพื่อเป็นตัวช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ให้ลูกค้ามีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น บริษัทฯ จึงเพิ่มกองทุนรวมใหม่ 5 กองทุนจาก 2 บลจ.ชั้นนำ ครอบคลุมการลงทุนในตราสารหนี้ หุ้นและสินทรัพย์ทางเลือกในต่างประเทศ รวมถึงการลงทุนในกองทุนที่ใช้เทคโนโลยี Machine learning และ Big data มาประมวลผลและวิเคราะห์การลงทุน เพื่อให้การวางแผนการเงินผ่านประกันชีวิตควบการลงทุน mDesign และ mOne มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” นายสาระกล่าว

ทั้งนี้เมืองไทยประกันชีวิตได้คัดสรรกองทุนรวมคุณภาพจาก 2 บลจ. เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุน ประกอบด้วย
1. บลจ.กสิกรไทย นำเสนอ 4 กองทุนใหม่ ได้แก่
* กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ พลัส (K-FIXEDPLUS) มีนโยบายลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ มีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศได้ตั้งแต่ 0% - 100% โดยป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่ต่ำกว่า 90% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เหมาะสำหรับผู้ที่คาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก ยอมรับผลตอบแทนที่อาจต่ำกว่าหุ้น และอยากเริ่มลงทุนในต่างประเทศ แต่ยังรับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก
* กองทุนเปิดเค แพลน 3 (K-PLAN3) กองทุนผสมที่สามารถเพิ่มการลงทุนในหุ้นได้สูงสุด 55% ส่วนที่เหลือกระจายลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ โดยลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 30% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เหมาะกับผู้ที่สามารถลงทุนในระยะยาว และยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางค่อนข้างสูง
* กองทุนเปิดเค อิควิตี้แอบโซลูทรีเทิร์น ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (K-ART) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุน BSF Americas Diversified Equity Absolute Return Fund, Class I2 USD โดยกองทุนหลักมีนโยบายมุ่งสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกโดยไม่คำนึงถึงสภาวะตลาดโดยใช้ตราสารอนุพันธ์ และใช้โปรแกรมจัดการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดเลือกหุ้น โดยนำการวิเคราะห์ Big Data และ Machine Learning มาใช้ในการวิเคราะห์หลักทรัพย์ กองทุน K-ART เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายเงินลงทุนส่วนหนึ่งไปในสินทรัพย์ทางเลือกรูปแบบใหม่ เพื่อให้พอร์ตการลงทุนโดยรวมมีความผันผวนลดลง สามารถลงทุนในระยะยาว และยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับสูง
* กองทุนเปิดเค พร็อพเพอร์ตี้ เซคเตอร์ (K-PROP) มีนโยบายลงทุนในตราสารภายใต้หมวดอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในและต่างประเทศ และมีนโยบายจ่ายเงินปันผล เหมาะกับผู้ที่สามารถลงทุนในระยะยาว และยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับสูงมาก

2. บลจ.วรรณ นำเสนอกองทุนใหม่ 1 กองทุน ได้แก่
* กองทุนเปิดวรรณ อัลติเมท โกลบอล โกรว์ธ (ONE-UGG) มีโยบายลงทุนในกองทุน Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund (กองทุนหลัก) ในหน่วยลงทุนชนิด Class B net accumulation (ชนิด B ประเภทสะสมมูลค่า) ที่เน้นคัดเลือกหุ้นที่มีอัตราการเติบโตสูงในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือมีนวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงมีแนวโน้มเติบโตสอดรับกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนให้หุ้นเติบโตขนาดใหญ่ทั่วโลก สามารถลงทุนในระยะยาว และยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับสูง

นายสาระกล่าวเพิ่มเติมว่า “mDesign และ mOne เป็นประกันชีวิตที่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องมือทางการเงินเพื่อเก็บออมระยะยาว ต้องการความคุ้มครองพร้อมโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวมคุณภาพที่เลือกสรรโดยบริษัท เพื่อความมั่นคงทางการเงินในอนาคตด้วยแบบประกันที่มีความยืดหยุ่นสูง ผู้เอาประกันภัยสามารถปรับลดจำนวนเบี้ยประกันภัย หรือปรับเปลี่ยนจำนวนเงินเอาประกันภัยได้ตามจังหวะชีวิต ขณะเดียวกันก็ยังสามารถถอนเงินบางส่วนจากกรมธรรม์หรือหยุดพักชำระเบี้ยได้ จึงนับเป็นทางเลือกการบริหารเงินที่คุ้มค่า ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้หลากหลายและตรงจุดไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการเงิน วางแผนเกษียณ และการวางแผนส่งต่อหลักประกันให้ลูกหลาน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางที่เมืองไทยประกันชีวิตให้ความสำคัญมาตลอด”

ทั้งนี้ กองทุนรวมที่ขยายทางเลือกเพิ่มขึ้นนั้น จะเริ่มเปิดขายควบกับประกันชีวิตควบการลงทุน mDesign และ mOne ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 ผู้สนใจสามารถติดต่อตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิต หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1766

หมายเหตุ – เงื่อนไขและข้อยกเว้นเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์ 
           – การพิจารณารับประกันเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด
           – การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือน ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไขและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง 


ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 1,333,328