“เมิร์ซ เอสเธติกส์” โหมตลาด “โบทูลินั่มท็อกซิน” ไทย มูลค่าตลาด 1.2 พันล้านบาท
นำโบเยอรมันคุณภาพ ตอบโจทย์ สวยเด้ง สวยปัง ไม่พังเพราะดื้อโบ
“เมิร์ซ เอสเธติกส์” ฉลองครบรอบ 110 ปี บุกตลาด “โบทูลินั่มท็อกซิน” ในไทย จัดสัมมนา “The Pure naked truth “BOtulinumTOXin resistance, The Beauty Threat” by Merz Aesthetics” ให้ความรู้อาการดื้อโบรับเทรนด์ความงามและสุขภาพปี 2018 เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความงามกว่า 1 ศตวรรษ พร้อมนำโบเยอรมันคุณภาพ ตอบโจทย์หญิงไทย สวยเด้ง สวยปัง ไม่พังเพราะดื้อโบ ด้วยมูลค่าตลาด “โบทูไลนุม ท็อกซิน” ทั่วโลกกว่า 2.2 พันล้านเหรียญฯ โดยไทยมีแชร์กว่า 1.2 พันล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง 8-10% ไปจนถึงปี 2021 “เมิร์ซ “ ตั้งเป้าแชร์ 10% ในพรีเมี่ยมเซกเมนต์ ในปี 18 และคาดหวังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องสูงกว่าตลาด
เภสัชกรหญิงกิตติวรรณ รัตนจันทร์ ผู้จัดการใหญ่ประจำ บริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า เมิร์ซ เอสเธติกส์ (Merz Aesthetics)เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความงามจากเยอรมัน ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเวชภัณฑ์ยา และเทคโนโลยีความงามมากกว่า 1 ศตวรรษทั้งเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมความงามกลุ่ม โบทูลินั่มท็อกซินสารเติมเต็มฟิลเลอร์ เครื่องยกกระชับผิวหน้า อัลเทอร่า และเครื่องมือแพทย์ เพื่อการดูแลรักษาผิวพรรณ และรูปร่าง โดยได้รับความไว้วางใจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามกว่า 90 ประเทศทั่วโลก พร้อมจัดสัมมนาความรู้ด้านความงาม เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 110 ปี ในหัวข้อ “The Pure naked truth “BOtulinumTOXin resistance, The Beauty Threat” by Merz Aesthetics” สวยเด้ง สวยปัง ไม่พังเพราะดื้อโบในงานเราได้รับเกียรติจาก วิทยากรพิเศษ ดอกเตอร์ เจอร์เกน เฟรเวิร์ต นักวิทยาศาสตร์ คนแรกของโลก ผู้คิดค้น วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โบเยอรมัน บินลัดฟ้ามาให้ความรู้เฉพาะทางด้านความงาม และปัญหาที่เกิดจากการดื้อโบ
โบทูลินั่มท็อกซินหรือ โบท็อกซ์ เป็นการฉีดโปรตีน เพื่อทำการลดเลือนริ้วรอย ในระยะแรก โบทูลินั่มท็อกซินได้ถูกใช้ประโยชน์ด้านการแพทย์เพื่อรักษาผู้ป่วย แต่ในปัจจุบันได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในทางความงามมากกว่า เพื่อเป็นการลดริ้วรอย ปรับใบหน้าให้กระชับเข้ารูป เสริมความมั่นใจ ทำให้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก นอกจากนี้ โบทูลินั่มท็อกซินยังเป็นหนึ่งในตลาดความงามที่มีมูลค่าอันดับต้นๆ และมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นทุกปี โดยในปี 2018 ธุรกิจโบทูลินั่มท็อกซินมีมูลค่าตลาดสูงถึง 2.2 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ รวมถึงถูกคาดการว่าจะพุ่งไปถึง 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอีก 3 ปีข้างหน้า และหากนับเฉพาะในประเทศไทย มูลค่าตลาดของโบทูลินั่มท็อกซินมีค่าราว 1,200 ล้านบาท พร้อมมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง 8-10% ไปจนถึงปี 2021 เลยทีเดียวซึ่ง“เมิร์ซ”ตั้งเป้าแชร์ 10% ในพรีเมี่ยมเซกเมนต์ ในปี 18 และคาดหวังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องสูงกว่าตลาด
แม้โบทูลินั่มท็อกซินจะเป็นเทคนิคที่ทำได้รวดเร็วและเห็นผลชัดเจน แต่ผลของการฉีดจะไม่ได้อยู่อย่างถาวร ทำให้ผู้ใช้ต้องรับการฉีดใหม่เรื่อยๆ และหากสารฉีดมีความบริสุทธิ์ไม่เพียงพอ หรือมีโปรตีนที่ไม่ได้ส่งผลในทางบวกปนเปื้อนมาด้วย ก็อาจทำให้ร่างกายเกิดภูมิคุ้มกันต่อสิ่งแปลกปลอมนั้นๆ จนในที่สุดการฉีดโบทูลินั่มท็อกซินก็จะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ และจะนำมาซึ่งอาการที่เรียกกันว่า “อาการดื้อโบ” ซึ่งในระยะสั้น จะส่งผลให้สูญเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิต และเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ ส่วนในระยะยาวนั้น อาจนำไปสู่การลดทอนคุณภาพชีวิต จากการเสียโอกาสการใช้ยาโบทูลินั่มท็อกซินเพื่อการรักษาความเจ็บป่วยในกรณีจำเป็นในอนาคต ซึ่งจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดโบทูลินั่มท็อกซินก็จะทำให้เกิดปัญหาจากอาการดื้อโบเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวไปด้วย
ดอกเตอร์ เจอร์เกน เฟรเวิร์ต นักวิทยาศาสตร์ คนแรกของโลกผู้คิดค้น วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โบเยอรมันกล่าวว่า “ความบริสุทธิ์ที่ไม่เพียงพอ แท้จริงคือความบริสุทธิ์ในระดับโมเลกุล หรือเกิดจากการที่มีโปรตีนเชิงซ้อน (complexing protein) ที่ไม่จำเป็นต่อการออกฤทธิ์ ปะปนอยู่ในโมเลกุลยา เป็นหนึ่งในเหตุอันนำมาซึ่งการดื้อโบ และแม้จะไม่อันตรายถึงชีวิต แต่ก็จะทำให้เกิดผลแง่ลบต่อสุขภาพจิตแทน ซึ่งอาการนี้ยังไม่มีวิธีรักษาทางการแพทย์ และหากตรวจพบก็ต้องหยุดรับการฉีดโบทูลินั่มท็อกซินเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี ดังนั้นหนทางที่สามารถทำได้คือการป้องกันด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะก่อให้เกิดการดื้อโบ โดยการรับบริการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และไม่ควรฉีดเกินปีละ 2 ครั้ง ด้วยโดสที่พอประมาณ ไม่ควรเกินครั้งละ 100 ยูนิตควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้เลือก โบทูลินั่มท็อกซินที่มีขนาดโมเลกุลเล็กและบริสุทธิ์และควรพึงระลึกไว้เสมอว่าของถูก และดีไม่มีในโลก
“แม้ว่าโบทูลินั่มท็อกซินจะนำมาซึ่งความงามที่ง่ายและรวดเร็ว แต่หากต้องแลกมากับสุขภาพในระยะยาว ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มกันเลยแม้แต่น้อย เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือความงามที่มาพร้อมสุขภาพที่ดี ซึ่งก็นับเป็นงานที่ เมิร์ซ เอสเธติกส์ ได้สร้างสรรค์มาตลอดระยะเวลากว่า 1 ศตวรรษ ซึ่งในโอกาสครบรอบ 110 ปีนี้ เมิร์ซ เอสเธติกส์ จึงได้จับมือกับ ดอกเตอร์ เจอร์เกน เฟรเวิร์ต จัดสัมมนา “The Pure naked truth “BOtulinumTOXin resistance, The Beauty Threat” by Merz Aesthetics” ขึ้น เพื่อให้หญิงสาวทุกคนได้รับรู้ถึงนวัตกรรมโบทูลินั่มท็อกซินที่ไร้สิ่งเจือปน และได้สัมผัสกับเสน่ห์แห่งความงามที่แท้จริงนั่นเอง” เภสัชกรหญิง กิตติวรรณ กล่าวทิ้งท้าย