ไปรษณีย์ไทย ขยายพื้นที่ “โครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข” ครอบคลุม 12 เขต 14 พื้นที่
เผยผลักดันสินค้าเข้าสู่ระบบสร้างรายได้ชุมชนเพิ่มกว่า 30%
• ไปรษณีย์ไทย เตรียมผุดโครงการ “ไปรษณีย์ไทย... เพื่อแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” พัฒนาท้องถิ่นโดยใช้ที่ทำไปรษณีย์เป็นศูนย์กลาง
กรุงเทพฯ- บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เตรียมต่อยอดการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนผ่านโครงการ “ไปรษณีย์ไทย... เพื่อแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” พัฒนาท้องถิ่นโดยใช้ที่ทำไปรษณีย์เป็นศูนย์กลาง พร้อมสานต่อโครงการ “ไปรษณีย์เพิ่มสุข” โชว์ศักยภาพด้านเครือข่ายครอบคลุมทั่วไทย รุกพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ผลักดันสินค้าท้องถิ่นส่งขายทั่วประเทศณ ที่ทำการไปรษณีย์ และเว็บไซต์ไทยแลนด์โพสต์มาร์ท (www.thailandpostmart.com) โดยในปี 2560 นี้ ไปรษณีย์ไทยได้ทำการขยายพื้นที่โครงการเพิ่ม รวมทั้งสิ้นเป็น 12 เขต ครอบคลุม 14 พื้นที่ทั่วประเทศไทย อาทิ ชารางแดง จากชุมชนเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน จังหวัดนครราชสีมา ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ จังหวัดอ่างทอง ผลิตภัณฑ์จักสานกระจูด จังหวัดนครศรีธรรมราช ฯลฯ โดยสินค้าชุมชนที่อยู่ภายใต้โครงการไปรษณีย์เพิ่มสุขจะถูกคัดเลือกเพื่อวางจำหน่าย ณ ที่ทำการไปรษณีย์ และเว็บไซต์ไทยแลนด์โพสต์มาร์ท www.thailandpostmart.com อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการชุมชนที่เข้าร่วมโครงการไปรษณีย์เพิ่มสุขที่ผ่านมา สามารถยกระดับผลิตภัณฑ์ทั้งในด้านการควบคุมคุณภาพ การบรรจุภัณฑ์ และช่องทางในการจำหน่าย จนสามารถสร้างรายได้แก่ชาวบ้านและผู้ประกอบการที่เข้าร่วมมากขึ้นกว่า 30 เปอร์เซ็นต์
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่าไปรษณีย์ไทยได้วางแผนเปิดโครงการ “ไปรษณีย์ไทย... เพื่อแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” พัฒนาเศรษฐกิจชุมชนโดยมีที่ทำการไปรษณีย์เป็นศูนย์กลาง พร้อมกันนี้ได้มุ่งมั่นสานต่อโครงการ “ไปรษณีย์เพิ่มสุข” โดยใช้ศักยภาพด้านเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการชุมชน และสินค้าท้องถิ่น เพิ่มช่องทางการกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคทั่วประเทศ ผ่านการคัดเลือกชุมชน และสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐานให้สามารถวางจำหน่าย ณ ที่ทำการไปรษณีย์ และเว็บไซต์ไทยแลนด์โพสต์มาร์ทโดยในปี 2560 ไปรษณีย์ไทยมุ่งเน้นการนำพื้นที่ที่ประสบความสำเร็จเป็นโมเดลตัวอย่างในการขยายไปยังพื้นที่ใกล้เคียงและพื้นที่ทั่วประเทศตามลำดับ อาทิ ชุมชนบ้านกุดจิก ผู้ผลิตข้าวฮางทิพย์ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนามาตรฐานของข้าวฮางบ้านกุดจิก หรือ ชุมชนคนตีมีดอรัญญิก จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ประสบความสำเร็จในเรื่องการเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และการนำสินค้าเข้าสู่ระบบจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ ไปรษณีย์ไทยได้วางแผนนำโมเดลดังกล่าว ประยุกต์ใช้กับชุมชนศูนย์ตุ๊กตาชาววัง บ้านบางเสด็จ จังหวัดอ่างทอง โดยตั้งเป้าผลักดันให้เป็น ศูนย์การเรียนรู้ที่สามารถดึงเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นมาขับเคลื่อนและยกระดับเศรษฐกิจของชุมชนได้อย่างยั่งยืน
นางสมร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันไปรษณีย์ไทยได้เดินหน้าโครงการไปรษณีย์เพิ่มสุขรวม 12 เขต ครอบคลุม 14 พื้นที่ทั่วประเทศ ได้แก่ 1) ผลิตภัณฑ์ชารางแดง “ชารากุล” ชุมชนเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 2) กุ้งกรอบสามรส “ยายหลีกะพี่ติ๋ว” จังหวัดสมุทรปราการ 3) ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ จังหวัดอ่างทอง 4) อาหารทะเล ณ ตลาดประมงท่าเรือพลี จังหวัดชลบุรี 5) เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน จังหวัดนครราชสีมา 6) พุทราหวานบ้านโพน “ทันสุข” จังหวัดกาฬสินธุ์ 7) ลำไยกึ่งอบแก้ง “ละพูน” จังหวัดลำพูน และเซรามิก “บ้านแม่ต๋ำ จังหวัดลำปาง 8) ผงจมูกข้าว “จันทร์หอม” และกล้วยม้วนอบ “แสงทอง” จังหวัดพิษณุโลก 9) ตู้ไปรษณีย์ยักษ์ ณ สวนผึ้ง และ “เด็ก คิด ปั้น” แกะดำทำดี จังหวัดราชบุรี 10) ผลิตภัณฑ์จักสานกระจูด และศูนย์การเรียนรู้ จังหวัดนครศรีธรรมราช 11) ผ้าทอ “ยอทอมือ” เอกลักษณ์เมืองใต้ชาวเกาะยอ จังหวัดสงขลา และ 12) ข้าวฮางทิพย์ จังหวัดสกลนคร
นางสมร กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาโครงการ “ไปรษณีย์เพิ่มสุข” ได้ใช้จุดแข็งด้านเครือข่ายไปรษณีย์ทั่วประเทศเติมความสุข เพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการชุมชนที่เข้าร่วมได้เพิ่มขึ้นกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เกิดการรวมกลุ่มของชาวบ้านเพื่อสร้างอาชีพร่วมกัน สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ในวงกว้าง เมื่อชุมชนเข้มแข็งในอนาคตก็จะสามารถส่งสินค้าออกไปบุกตลาดต่างประเทศได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thailandpost.co.thหรือ THP call center 1545