สมาคมการขายตรงไทย คว้าการเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมระดับโลกปี 2020
WFDSA 2020 World Congress
สมาคมการขายตรงไทย (TDSA : Thai Direct Selling Association) โชว์ศักยภาพเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมระดับโลก ”WFDSA 2020 World Congress” ครั้งที่ 16 ที่จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2020 โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมร่วม 1,000 คน จากกลุ่มบริษัทผู้ประกอบการธุรกิจขายตรงทั่วโลก ที่เป็นสมาชิกของสมาพันธ์การขายตรงโลก (WFDSA : World Federation of Direct Selling Associations) ในกว่า 60 ประเทศ ทั้งนี้เป็นการแสดงถึงศักยภาพ ความแข็งแกร่ง ได้มาตรฐานของสมาคมการขายตรงไทยที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
นางสุชาดา ธีรวชิรกุล นายกสมาคมการขายตรงไทย เผยว่า “นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมระดับโลก WFDSA 2020 World Congress ที่กำหนดจัดขึ้นทุก 3 ปี โดยปีล่าสุด 2017 จัดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศสเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และจากที่ประชุมของคณะกรรม การสมาพันธ์ฯ โหวตให้ประเทศไทยเป็นสถานที่จัดประชุมในปี 2020 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ ความแข็งแกร่ง มาตรฐาน ของสมาคมการขายตรงไทยที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลก และความพร้อมของประเทศไทย โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจากสมาคมการขายตรงประเทศต่างๆ ที่เป็นสมาชิกสมาพันธ์การขายตรงโลก,หน่วยงานภาครัฐ,หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค, สถาบันการศึกษา, สื่อมวลชน ร่วม 1,000 คน และคาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ประเทศประมาณ 100 ล้านบาทขึ้นไป โดยกำหนดจัดขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2020”
การประชุม WFDSA World Congress จัดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และร่วมส่งเสริมการดำเนินธุรกิจขายตรง รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์และแสดงศักยภาพของธุรกิจขายตรง ในการร่วมพัฒนาเศรษฐกิจโลก และคุณภาพชีวิตของมนุษยชาติ โดยในปี 2016 ที่ผ่านมา มีนักขายตรงทั่วโลกถึง 107 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.1% จากปี 2015 และมีมูลค่าตลาดรวมธุรกิจขายตรงทั่วโลกอยู่ที่ 182.6 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 3 ปี (ปี 2013 – 2016) อยู่ที่ 5.2% โดยภูมิภาคที่มีสัดส่วนยอดขายสูงสุดได้แก่ ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่มีสัดส่วนยอดขายถึง 46% มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 3 ปี อยู่ที่ 6.7%, ภูมิภาคอเมริกา มีสัดส่วนยอดขาย 33% โดยเติบโตเฉลี่ย 3 ปี อยู่ที่ 3.3%, ในขณะที่ภูมิภาคยุโรป มีสัดส่วนยอดขาย 20% เติบโตเฉลี่ย 3 ปี อยู่ที่ 4.9% และ แอฟริกา / ตะวันออกกลาง มีสัดส่วนยอดขาย 1% โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 3 ปี อยู่ที่ 6.0%
สำหรับประเทศที่มีมูลค่าตลาดรวมธุรกิจขายตรงสูงสุด 10 อันดับแรกในปี 2016 ได้แก่
1) สหรัฐอเมริกา มูลค่าตลาดรวม 35,540 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
2) จีน มูลค่าตลาดรวม 33,888 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
3) เกาหลี มูลค่าตลาดรวม 16,862 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
4) เยอรมนี มูลค่าตลาดรวม 15,878 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
5) ญี่ปุ่น มูลค่าตลาดรวม 15,305 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
6) บราซิล มูลค่าตลาดรวม 8,689 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
7) แม็กซิโก มูลค่าตลาดรวม 5,855 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
8) มาเลเซีย มูลค่าตลาดรวม 4,819 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
9) ฝรั่งเศส มูลค่าตลาดรวม 4,568 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
10) สหราชอาณาจักร มูลค่าตลาดรวม 3,845 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 13 มีมูลค่าตลาด 2,644 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 93,333 ล้านบาท
“สำหรับตลาดขายตรงในภูมิภาคอาเซียน ไทยนับเป็นอันดับ 2 รองจากมาเลเซีย และอันดับ 3 ฟิลิปปินส์ อันดับ 4 อินโดนีเซีย อันดับ 5 เวียดนาม และอันดับ 6 สิงคโปร์ โดยทั้ง 6 ประเทศนี้เป็นสมาชิกของสมาพันธ์การขายตรงโลก ที่ล่าสุดได้มีการจัดประชุม ASEAN’s DSA เมื่อกลางปีที่ผ่านมาในประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสมาคมในประเทศอาเซียน รวมถึงแลกเปลี่ยนความรู้ การทำตลาด และการดำเนินกิจการอย่างดีที่สุด พร้อมทั้งสร้างประโยชน์ในระดับภูมิภาค เพื่อให้ผู้ประกอบการขยายธุรกิจใน AEC ได้สะดวกและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังร่วมมือกันต่อต้านแชร์ลูกโซ่
ส่วนภาพรวมของตลาดขายตรงไทยในสิ้นปี 2017 ประมาณการที่ 95,000 ล้านบาท โดยเติบโตประมาณ 2% จากปี 2016 โดยมีนักธุรกิจขายตรงไทยกว่า 11 ล้านคน ล่าสุดสมาคมการขายตรงไทยได้รับรางวัลสมาคมการค้าดีเด่น ประจำปี 2560 ใน 2 ด้าน จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้แก่ ด้านคุณภาพการให้บริการ และด้านการพัฒนาองค์กร จะเห็นได้ว่าสมาคมการขายตรงไทยเป็นสมาคมที่มีมาตรฐานและได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นที่ยอมรับจากหน่วยงานภาครัฐ ด้วยศักยภาพที่แข็งแกร่งจึงทำให้อุตสาหกรรมขายตรงไทยเป็นหนึ่งในธุรกิจฟันเฟืองขนาดใหญ่ ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตและก้าวหน้ายิ่งขึ้น ด้วยการเป็นธุรกิจที่มอบโอกาส สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้แก่ผู้คนที่พร้อมจะพัฒนาศักยภาพของตัวเอง” นายกสมาคมการขายตรงไทยกล่าวปิดท้าย