อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ เอสพีวี1
ประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ มูลค่ารวม 11,500 ล้านบาท
บริษัทย่อย 3 แห่งของ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) รวมตัวตั้งบริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ เอสพีวี1 ระดมทุนผ่านหุ้นกู้ รวม 11 ชุด มูลค่ารวม 11,500 ล้านบาท ด้วยยอดจองทะลุ 2.3 เท่า ครอบคลุมนักลงทุนทุกกลุ่มในตลาด
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ตามที่โรงไฟฟ้าในกลุ่มของ บี.กริม เพาเวอร์ ได้เปิดดำเนินการทางธุรกิจมาแล้วในระยะเวลาหนึ่ง จนมีกระแสเงินสดที่มั่นคงทั้งจากสัญญาซื้อไฟฟ้าระยะยาวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และผู้ใช้ไฟฟ้าที่เป็นลูกค้าอุตสาหกรรมชั้นนำ ทางกลุ่มจึงเห็นสมควรแก่เวลาที่จะให้โรงไฟฟ้าต่างๆ ที่เป็นเจ้าของกระแสเงินสดนั้น เดินหน้าระดมเงินทุนเพื่อใช้ในการประกอบการเป็นของตนเองและเป็นการปรับโครงสร้างทางการเงินให้เหมาะสมมากที่สุด ประกอบกับภาวะตลาด ตราสารหนี้ที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับเหมาะสม กลุ่มจึงได้เลือกให้บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 3 จำกัด บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 1 จำกัด และบริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 2 จำกัด เป็นผู้ระดมทุนในครั้งนี้ เนื่องจากโรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่งมีขนาดกำลังการผลิตที่ใกล้เคียงกัน ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเหมือนกัน สามารถสร้างกระแสเงินสดได้ในระดับเดียวกัน รวมทั้งโรงไฟฟ้าแต่ละแห่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บจก.ทริสเรตติ้ง ในระดับ A- เท่ากัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้ครั้งนี้ โดยได้แต่งตั้งให้ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้”
นายพรชัย ปัทมินทร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “การเสนอขายหุ้นกู้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง จากยอดจองกว่า 2.3 เท่า ซึ่งการที่กลุ่มผู้จัดจำหน่ายได้จัดโครงสร้างที่คำนึงถึงผู้ออกตราสารและผู้ลงทุน โดยจัดโครงสร้างในการออกหุ้นกู้พร้อมกัน 11 รุ่น มูลค่ารวมกัน 11,500 ล้านบาท มี บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ เอสพีวี1 จำกัด เป็นผู้ออกตราสารหนี้ เพื่อเป็นการรวมกระแสเงินสดของทั้งสามแห่งเข้าด้วยกัน ทั้งนี้เพื่อให้ตารางการชำระหนี้ของหุ้นกู้ในแต่ละรุ่นใกล้เคียงกับกระแสเงินสดของผู้ออกตราสารหนี้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้ผู้ออกตราสารหนี้บริหารกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับสามารถกระจายหุ้นกู้ได้ครอบคลุมกลุ่มผู้ลงทุนได้ทุกกลุ่ม ทั้งผู้ลงทุนรายใหญ่ ผู้ลงทุนสถาบันที่มีเป้าหมายลงทุนระยะสั้น เช่น กองทุนรวม และผู้ลงทุนสถาบันที่มีเป้าหมายลงทุนระยะยาว เช่น ประกันชีวิตและสหกรณ์ ซึ่งธนาคารมีความยินดีมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในครั้งนี้”
คุณภานุ โชติประสิทธิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ Client Coverage 3 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ ธนาคารมีความมั่นใจในศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ เอสพีวี1 จำกัด โดยการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ นับเป็นตัวอย่างสำคัญของการสร้างทางเลือกใหม่ในการระดมทุนสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าอื่นๆ ในอนาคต ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงเห็นได้จากการตอบรับของนักลงทุน สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของโรงไฟฟ้า SPP ทั้ง 3 โรง ภายใต้การบริหารงานของกลุ่ม บี.กริม เพาเวอร์ ตลอดจนความสามารถและความทุ่มเทของผู้บริหาร บี.กริม เพาเวอร์ ที่สามารถสร้างความเข้าใจในลักษณะจำเพาะทางธุรกิจของกิจการโรงไฟฟ้า และทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว ตลอดจนประโยชน์จากโรงไฟฟ้า SPP ที่จะสามารถสร้างคุณค่าให้กับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งสามารถตอบโจทย์ที่หลากหลายให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี และธนาคารไทยพาณิชย์มีความยินดีที่ได้รับความไว้วางใจและได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้ ขอยืนยันความมุ่งมั่นที่จะเคียงข้างเป็นพันธมิตรกับ บี.กริม เพาเวอร์ สู่ความสำเร็จในอนาคตต่อไป
อนึ่ง บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ เอสพีวี1 ถือหุ้นโดยโรงไฟฟ้าของกลุ่ม บี.กริม เพาเวอร์ จำนวน 3 โรง ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี จำนวน 1 โรง และโรงไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง อีก 2 โรง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งจำนวนรวมทั้งสิ้น 380.2 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตไอน้ำติดตั้งรวม 90.0 ตันต่อชั่วโมง