คปภ. คาดปีนี้เบี้ยประกันทั้งระบบทะลุ 8 แสนล้าน โตต่อเนื่อง 6%

ชี้เบี้ยชีวิตแบบ“บำนาญ – ยูนิตลิงค์ - ยูนิเวอร์แซลไลฟ์ โตโดดเด่น

ส่วนเบี้ยฝั่งวินาศภัย“รถยนต์ - เบ็ดเตล็ด” ยังฉายแววสดใส

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2560 มีทิศทางการเติบโตที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยมีแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการใช้จ่ายในประเทศและภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับแรงหนุนจากภาครัฐที่ใช้นโยบายต่างๆเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการผลักดันการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ส่งผลทำให้อุตสาหกรรมประกันภัยได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย ดังนั้นสำนักงาน คปภ.จึงได้วิเคราะห์แนวโน้มอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัย โดยคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมประกันภัยทั้งระบบ เมื่อสิ้นปี 2560 จะมีเบี้ยประกันภัยรวมจำนวน 824,475 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 6.01 โดยแบ่งเป็นเบี้ยประกันชีวิตจำนวน 611,324 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 7.63 และเบี้ยประกันวินาศภัยจำนวน 213,151 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 1.63

ทั้งนี้จากการวิเคราะห์ทิศทางการเติบโตเบี้ยประกันชีวิตในปีที่ผ่านมา พบว่าเบี้ยประกันชีวิตที่มีอัตราการเติบโตโดดเด่น เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญ กรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุนแบบยูนิตลิงค์ และแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์ ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่าปี 2560 กรมธรรม์ประกันชีวิตเหล่านี้ยังมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนทิศทางการเติบโตเบี้ยประกันวินาศภัยในปีที่ผ่านมา พบว่า เบี้ยประกันภัยรถและเบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด มีอัตราการเติบโตโดดเด่น ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่าปี 2560 เบี้ยประกันภัยรถและเบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ดยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมของธุรกิจประกันภัยปี 2559 (มกราคม – ธันวาคม)? มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวม 777,717 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 4.76 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สอดรับกับทิศทางการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2559 ที่มีการขยายตัวได้ที่ร้อยละ 3.20 ซึ่งแบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงจากธุรกิจประกันชีวิตจำนวนทั้งสิ้น 567,974 ล้านบาท ขยายตัว ร้อยละ 6.52 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีเบี้ยประกันชีวิตที่มีอัตราเติบโตโดดเด่น เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญ มีเบี้ยประกันรับรวม 7,831 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 1.61 เมื่อเทียบกับปีก่อน กรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุนแบบยูนิตลิงค์ มีเบี้ยรับรวม 7,051 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 1.45 เมื่อเทียบกับปีก่อน และกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุนแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์ มีเบี้ยรับรวม 2,168 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 0.45 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีเบี้ยประกันภัยรับสูงสุด ได้แก่ การประกันชีวิตประเภทสามัญ จำนวน 415,484 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 10.17 รองลงมาเป็นประเภทกลุ่มจำนวน 40,621 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 29.67 ตามด้วยประเภทอุสาหกรรม จำนวน 6,716 ล้านบาท ขยายตัวลดลงร้อยละ 7.30 และประเภทอุบัติเหตุฯ จำนวน 5,331 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.03 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในส่วนของธุรกิจประกันวินาศภัยมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงจำนวนทั้งสิ้น 209,743 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 0.26 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีเบี้ยประกันภัยรับสูงสุด ได้แก่ เบี้ยประกันภัยรถ จำนวน 120,950 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 0.45 ซึ่งแบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยจากการประกันภัยรถภาคบังคับ จำนวน 16,407 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 0.70 และจากการประกันภัยรถภาคสมัครใจ 104,543 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 0.41 รองลงมาคือ เบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด จำนวน 73,476 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 0.69 ตามด้วยเบี้ยประกันอัคคีภัย จำนวน 10,077 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 3.88 และการประกันภัยทางทะเลและขนส่ง จำนวน 5,240 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 1.85

ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 ธุรกิจประกันทั้งระบบมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 3,357,939 ล้านบาท ขยายตัวได้ดีที่ร้อยละ 10.43 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยแยกเป็นสินทรัพย์รวมของธุรกิจประกันชีวิต จำนวน 2,895,816 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 12.22 และเป็นสินทรัพย์รวมของธุรกิจประกันวินาศภัย 462,123 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 0.35 ในขณะที่สินทรัพย์ลงทุนทั้งสิ้น 3,073,921 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 11.21 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยแยกเป็นสินทรัพย์ลงทุนของธุรกิจประกันชีวิต 2,769,139 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 12.56 ส่วนสินทรัพย์ลงทุนของธุรกิจประกันวินาศภัย 304,782 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 0.29

 

Businessbiweekly.net

Visitors: 1,330,938