USANAปักฐานแกร่งทั่วโลก

พิชิตยอดพันล้านเหรียญ

จากความเหนือชั้นของบริษัทแม่ในฐานะยักษ์ขายตรงไบนารี่เบอร์หนึ่งของโลกนาม “ยูซานา เฮลธ์ ไซเอนซ์” ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่งต่อพลังความแข็งแกร่งให้แผ่กระจายไปยังบริษัทลูกทั่วโลก ถือเป็นรากฐานความสำเร็จที่ได้รับการพิสูจน์ให้เห็นตลอดระยะเวลา 25 ปีอันยาวนานและยาวไกลไปอีกเรื่อยๆ โดยเห็นจากยอดขายที่ดีดตัวสูงขึ้นทุกปีนับแต่จุดเริ่มต้นมาถึงจุดปัจจุบันที่ยืนหยัดยืนอยู่ก็เป็นภาพสะท้อนถึงการเติบโตได้ดีได้อย่างที่คาดการณ์กันไว้กับตัวเลขทะลุหลักพันล้านเหรียญในปี 2559 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากปี 2558 มีตัวเลขหลัก 918.5 ล้านเหรียญ ขณะที่ปี 2557 ทำได้ในระดับ 800 ล้านเหรียญและปี 2556 กับตัวเลข 718 ล้านเหรียญสหรัฐ

สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับความสำเร็จทุกด้านในทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จในด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์ตามหลักวิทยาศาสตร์ให้สามารถพิสูจน์ได้คู่ขนานเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าจนได้รับการตีตราจาก 3rd Party ได้แก่ ConsumerLab.com, NutriSearch Comparative Guide to Nutritional Supplements เป็นเครื่องหมายการันตี หรือความสำเร็จในด้านชื่อเสียงเลื่องลือของผู้ก่อตั้งและประธาน ยูซานาอย่าง “ดร.ไมรอน เวนทซ์ (Myron Wentz)” ก็ได้รับการยกย่องจากนิตยสารดังระดับโลก Forbes Magazine ขนานนามให้เป็น “The Supplement King” และก้าวขึ้นทำเนียบมหาเศรษฐีในธุรกิจขายตรงที่มีทรัพย์สินเกินพันล้านเหรียญสหรัฐ หรือความสำเร็จในด้านบริษัทที่ “ยูซานา เฮลธ์ ไซเอนซ์” ประเทศสหรัฐอเมริกา” ได้รับการพิจารณารับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “บริษัทที่น่าทำงานที่สุดในอุตสาหกรรม ขายตรง” ซึ่งประเมินผลและจัดอันดับโดย Quantum Workplaceผู้นำด้านการสร้างความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร ได้เป็นผู้ออกแบบการแข่งขันเพื่อเฟ้นหาบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดในอุตสาหกรรมขายตรง เพื่อยกย่องบริษัทที่เล็งเห็นถึงคุณค่าของพนักงานที่มีความสามารถและการสร้างความผูกพันของบุคลากรต่อองค์กร เป็นต้น

รวมไปจนถึงความสำเร็จในด้านบริษัทลูกที่ได้เข้าไปลงหลักปักฐานทำธุรกิจใน 23 ตลาดทั่วโลกและสร้างฐานสมาชิกนักธุรกิจยูซานาให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่า 500, 000 ครอบครัว ก็ต่างเดินหน้ากันเติบโต ทั้งเห็นได้จากผลประกอบการแต่ละไตรมาสในปี 2559 ของ “ยูซานาทั่วโลก” ที่ขยับตัวเลขเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเริ่มตั้งแต่ไตรมาสแรกทำยอดขายสุทธิกว่า 240.4 ล้านเหรียญหรือสูงขึ้นกว่าปีก่อนถึง 9.6% ตามด้วยไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้นอีก 10.8% เป็น 258.8 ล้านเหรียญพร้อมๆกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักธุรกิจในระดับ 15.9% และการเพิ่มขึ้นของ Preferred Customers อีกกว่า 6.6% ส่วนไตรมาสที่ 3 มียอดขายสุทธิ 247.9 ล้านเหรียญและไตรมาสที่ 4 ก็สามารถทำยอดขายสุทธิเพิ่ม 8.7% เป็น 252.9 ล้านเหรียญ หรือเพิ่มขึ้น 12.7% ตามอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงตัว

โดยตลอดปี 2559 คิดเป็นยอดขายสุทธิรวมเพิ่มขึ้น 9.5% ด้วยตัวเลขที่ไต่ระดับถึง 1.006 พันล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับปี 2558 มีตัวเลขยอดขายสุทธิที่ 918.5 ล้านเหรียญ ซึ่งหากคิดตามอัตราแลกเปลี่ยนคงที่แล้วจะพบว่ามียอดขายสุทธิเพิ่มขึ้น 14.1% เลยทีเดียว ส่วนปัจจัยที่เกื้อหนุนให้ “ยูซานาทั่วโลก” มียอดขายสุทธิรวมในปี 2559 พุ่งขึ้นไปแตะหลักพันล้านเหรียญได้เป็นผลสำเร็จนั้น “มร.อึง เคง เฮียน” Executive Vice President of Marketing, Asia ของยูซานา บ่งชี้ให้เห็นว่า เป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายและการเพิ่มจำนวนของนักธุรกิจยูซานา ในตลาดเอเชียแปซิฟิกที่ขยายตัวขึ้นอีก 15.3% เมื่อเทียบกับปี 2558   โดยเฉพาะตลาดผู้นำภูมิภาคนี้อย่างตลาดจีนจะเห็นตัวเลขยอดนักธุรกิจยูซานาที่เพิ่มขึ้นสูงถึง 20.1% ขณะที่ตลาดเอเชียเหนือก็เติบโตได้ด้วยการเพิ่มจำนวนนักธุรกิจยูซานาในเกาหลีที่มีตัวเลขกว่า 33.3% รวมถึงการเติบโตของยอดขายในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็เกิดขึ้นได้จากการเพิ่มจำนวนของนักธุรกิจยูซานาในเกือบทุกประเทศด้วยเช่นกัน

สอดรับกับยอดขายสุทธิในเอเชียแปซิฟิกที่มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 12.4% เป็น 193.4 ล้านเหรียญ หรือหากคิดตามอัตราแลกเปลี่ยนคงที่จะเพิ่มขึ้นกว่าเดิมที่ 16.8% อีกทั้งมีรายละเอียดของตัวเลขดังนี้ ยอดขายในจีนเพิ่มขึ้น 11.8%, ยอดขายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น 11.3%, ยอดขายในเอเชียเหนือเพิ่มขึ้น 23.3% เป็นต้น

“ปี 2559 ที่ผ่านมานับเป็นอีกปีที่น่าประทับใจของยูซานาทั่วโลก โดยเฉพาะการทำยอดขายทะลุหลัก 1 พันล้านเหรียญ ทำให้เราสามารถทำลายสถิติตัวเองเป็นปีที่ 14 ติดต่อกัน และเรายังมีกำไรต่อหุ้นสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา นอกจากนี้เรายังเปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุดซึ่งเราเรียกว่า Incelligence? product platform ซึ่งแสดงให้เห็นวิวัฒนาการของวิสัยทัศน์และการพัฒนาสินค้าของยูซานา รวมทั้งเป็นก้าวอนาคตที่จะทำให้เราคงอยู่ในแถวหน้าของอุตสาหกรรมต่อไป”

“มร.อึง เคง เฮียน” กล่าวพร้อมกับให้แนวทางการดำเนินธุรกิจสำหรับปี 2560 ปีนี้ว่า กลยุทธ์ของยูซานาทั่วโลกจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาสินค้าเพื่อลูกค้าแต่ละกลุ่มโดยเฉพาะ รวมถึงการออกโครงการที่เน้นกระตุ้นการเติบโต และการลงทุนอย่างต่อเนื่องในการพัฒนา IT infrastructure เพื่อตอบสนองความต้อง การของลูกค้าและรองรับการเติบโตในอนาคต

“ด้วยผลประกอบการและการเติบโตของนักธุรกิจยูซานาที่เป็นไปได้ดีและน่าพอใจตลอดทั้งปีรวมถึงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมาก็จะเห็นว่า หลาย ๆ โครงการที่ริเริ่มขึ้นระหว่าง ไตรมาส4ส่งผลให้รายได้สุทธิของยูซานาเป็นไปตามเป้าที่คาดการณ์ไว้ โดยหนึ่งในโครงการที่ริเริ่มขึ้นคือการย้ายโรงงานผลิตไปที่จีนซึ่งตอนนี้เริ่มทำการผลิตแล้วทำให้มีสมรรถ ภาพการผลิตที่เราต้องการในจีน ส่วนโครงการที่สองคือ การเพิ่มผลตอบแทนที่จูงใจ (incentive) ให้กับหุ้นส่วนนักธุรกิจยูซานาทั่วโลก ซึ่งทั้งสองโครงการนี้มีความสำคัญกับธุรกิจ ยูซานาและจะช่วยให้เราเริ่มปี 2017 ด้วยความแข็งแกร่ง" อีกทั้งยังเดินหน้าสานต่อความสำเร็จในก้าวต่อๆไปให้ได้ตามเป้าหมายของบริษัทแม่“ยูซานา เฮลธ์ ไซเอนซ์” ประเทศสหรัฐอเมริกา” ที่วางแนวทางสำคัญเอาไว้ นั่นก็คือ “การเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนและการเข้าถึงครอบครัวแต่ละครอบครัวให้เพิ่มจำนวนขึ้นประมาณ 20% ต่อปี” ซึ่งเป็นเป้าหมายใหญ่ร่วมกันของธุรกิจยูซานาทั่วโลก

“ยูซานาไทย”ตั้งธง Changing Live Changing You
เจาะครัวเรือนไทยเพิ่มให้ได้ 20% ต่อปี

ขณะที่ตลาดเมืองไทยจากการขับเคลื่อนของบริษัทลูกอย่าง บริษัท ยูซานา เฮลธ์ ไซเอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด นำโดยผู้บริหารหญิงมากฝีมือ คุณสาริณี เสฐียรภัคกุล ในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ก็ได้กล่าวถึงความสำเร็จของยูซานาไทยที่เป็นผลมาจากความแข็งแกร่งโดยรอบด้านของบริษัทแม่ ทั้งด้านผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมีหลักวิทยาศาสตร์รองรับทุกขั้นตอน,ด้านแผนการตลาดที่จ่ายผลตอบแทนสูง,ด้านความโปร่งใสตรวจสอบได้เพราะจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯและด้านการมีนักธุรกิจของยูซานาที่ประสบความสำเร็จที่ให้ความสำคัญกับจำนวนของผู้คนที่พวกเขาได้ไปเปลี่ยนแปลงชีวิตมากกว่ารายได้ที่พวกเขาได้รับมา เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นแรงนำพาที่ดีที่ผลักดันให้ยูซานาไทยก้าวย่างอย่างมั่นคงไปพร้อมๆกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จรวมไปจนถึงการมีนักธุรกิจไทยที่ประสบความสำเร็จในตลาดต่างชาติเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยในคราเดียวกัน

โดยเฉพาะเมื่อช่วงปี 2559 ที่ผ่านมาที่ปรากฏถึงความสำเร็จของนักธุรกิจยูซานาไทยกับการก้าวขึ้นตำแหน่งใหม่ในระดับสูงเพิ่มขึ้นอีก 12 ท่าน ซึ่งผู้ก้าวขึ้นตำแหน่งสูงสุดในตำแหน่ง 2Star Diamond Directors ควบตำแหน่ง Executive Star Diamond Director คือ “นพ.สุเมธ และ ทพญ.นุชพรรณ มะฮาด” ตามด้วยตำแหน่ง Emerald Director ได้แก่ สุพัตรา บุญครบ ขณะที่ ตำแหน่ง Ruby Director ได้แก่ คุณจีรพัฒน์ แสงชัย, คุณภาสพงศ์ ศรีวงษ์รัตน์ และพญ.ปรารถนา พิบูลย์วรกุล รวมถึง ตำแหน่ง Executive Gold Director ได้แก่ คุณชิยา มะฮาด,คุณภาสพงศ์ ศรีวงษ์รัตน์ ,พญ.ปรารถนา พิบูลย์วรกุล และ ตำแหน่ง Gold Director ได้แก่ ดร. ปรีชา อรัญวารี, คุณพจนาถ ขันธวุธ, SPT Life Limited Partnership, คุณจวรรณภรณ์ มาตย์สุรีย์, คุณเฉลิม อานนท์ และคุณอริษรา ศรฬสวรรณ-คุณจรุงเกียรติกฤรต พินิจกิจ ซึ่งนักธุรกิจยูซานาไทยที่ประสบความสำเร็จก้าวขึ้นตำแหน่งใหม่ดังกล่าวจะได้รับการประดับเข็มเชิดชูเกียรติบนเวทีในงานเฉลิมฉลองใหญ่ที่ได้จัดขึ้นครั้งนี้ ภายใต้ธีม Changing Live Changing You ที่ใช้เป็นธงนำสำหรับเป้าหมายต่อไปรวมทั้งเป้าหมายสำคัญใน“การเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนและการเข้าถึงครอบครัวแต่ละครอบครัวให้เพิ่มจำนวนขึ้นประมาณ 20% ต่อปี”ตามที่บริษัทแม่วาดหวังเอาไว้ด้วย

“จริงๆ แล้วเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนและการเข้าถึงครอบครัวแต่ละครอบครัวให้เพิ่มจำนวนขึ้นประมาณ20%ต่อปีสำหรับยูซานาไทยนั้นเราสามารถทำได้มากกว่าเป้าหมาย 20% ในทุกปีมาโดยตลอด รวมถึงในปีนี้ก็ได้เตรียมกลยุทธ์รองรับการขยายตัวทางธุรกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ในไลน์ Food ที่เปิดตัวไปบ้างแล้วและจะทยอยเปิดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”

คุณสาริณี กล่าวพร้อมกับให้รายละเอียดถึง “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไฟเบอร์ MySmart Shake Fibergy” ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้นำมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในงานอีกว่า เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีดีมากกว่าการช่วยให้ผอมเพราะยังให้ใยอาหาร 9 กรัม เทียบเท่ากับ 1 ใน 3 ของความต้องการไฟเบอร์ในแต่ละวันเลยทีเดียว ทำให้อิ่มท้องส่งผลให้ความรู้สึกอยากอาหารลดลงจึงมีส่วนช่วยในการควบคุมพฤติกรรมการรับประทานได้ดีขึ้น ซึ่งจากการวิจัยในวารสาร Journal of the American College of Nutrition ยังพบว่า ผู้ที่ทานอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ หรือทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงมีแนวโน้มที่จะทานอาหารน้อยลงและรู้สึกหิวน้อยกว่าอีกด้วย รวมทั้งไฟเบอร์ไม่เพียงแต่มีประโยชน์ในแง่การทำให้อิ่มท้องด้วยการฟอร์มตัวเป็นเจลเหนียวในกระเพาะ ทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะได้นานขึ้น หากแต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพในหลายๆ ด้านด้วยกัน

โดย “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไฟเบอร์ MySmart Shake Fibergy” ประกอบด้วยไฟเบอร์ที่สำคัญคือ ซิลเลี่ยม (Psyllium) อินนูลิน(Inulin) และแฟล็กซีด (Flaxseed) ใยอาหารส่วนที่ละลายน้ำได้นั้นดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด เนื่องจากช่วยลดการดูดซึมไขมันได้ จึงมีประโยชน์ต่อการควบคุมระดับกลูโคสและไขมันในเลือดได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ใยอาหารส่วนที่ไม่ละลายน้ำนั้นช่วยให้เนื้ออุจจาระในลำไส้ใหญ่เพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อระบบการย่อยอาหารและการขับถ่าย จากงานวิจัยพบว่า เมื่อรับประทานใยอาหารนาน 1-2 สัปดาห์ จะช่วยลดอาการท้องผูก ท้องเสียได้และแน่นอนว่า เมื่อระบบทางเดินอาหารทำงานได้อย่างปกติดี จึงย่อมลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย ส่วนอินนูลินนั้นยังสามารถทำหน้าที่เป็นพรีไบโอติค(Prebiotic) ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรค ช่วยทำให้เยื่อบุผิวของลำไส้แข็งแรง ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและการทำหน้าที่ของแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ใหญ่

ทั้งสอดคล้องไปกับก่อนหน้านี้ก็ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์สินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆเข้าสู่ตลาดเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง อาทิ ผลิตภัณฑ์ มาย สมาร์ท เชค (My Smart Shake) สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักโดยเลือกใช้ส่วนผสมที่มีคุณภาพสูง และมีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และหลักฐานที่เชื่อถือได้รองรับทำให้การควบคุมน้ำหนักเป็นไปอย่างยั่งยืน ให้พลังงานต่ำและมีสัดส่วนการกระจายพลังงาน (คาร์โบไฮเดรต: ไขมัน: โปรตีน) ที่สมดุลซึ่งถูกต้องตามหลักโภชนาการ ประกอบกับคุณสมบัติพิเศษอื่นๆอีกมากมาย เช่น ไม่มีส่วนประกอบของน้ำตาลหรือแม้กระทั่งน้ำตาลแอลกอฮอล์, ให้ไฟเบอร์สูงจึงรู้สึกอิ่มและอยู่ท้องนาน, ปราศจากไขมันทรานส์อันเป็นตัวการร้ายที่ก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้, ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ค่อยๆ ปล่อยน้ำตาลเข้ากระแสเลือด จึงเหมาะกับผู้มีปัญหาเบาหวานอีกด้วย, ให้โปรตีนสูงทั้งในแง่ของปริมาณและคุณภาพ, non GMO ส่วนประกอบทุกชนิดไม่มีการดัดแปลงทางพันธุกรรม, allergen free หมดห่วงกับปัญหาการแพ้อาหาร เป็นต้น นอกเหนือจากนั้นยังสามารถสร้างสรรค์รสชาติให้กับมื้ออาหารแปลกใหม่ด้วยตัวรสชาติที่มีมาให้เลือกถึง 6 รส ได้แก่ รสดาร์กช็อคโกแลต, รสบานานา, รสคาปูชิโน, รสพีชแมงโก้, รสออเร้นจ์ ครีม, รสมัทฉะ กรีนที, รสสตรอเบอร์รี่ และรวมถึงผลิตภัณฑ์ในไลน์เทคโนโลยีใหม่ซึ่งถูกคิดค้นพัฒนามากว่า 4 ปี อย่าง ผลิตภัณฑ์ อินเซลลิเจนซ์ (InCelligence)” ที่ช่วยให้เซลล์ในร่างกายได้รับการฟื้นฟูและปกป้องตัวเองได้อย่างทรงพลังซึ่งแสดงถึงความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ทางด้านโภชนาการระดับเซลล์และสุขภาพโดยรวม ด้วยส่วน ประกอบที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายและนวัตกรรมใหม่ "InCelligence" ซึ่งมีคุณสมบัติโดดเด่นอยู่ 3 ประการภายในตัวเองนั่นคือ 1. Nourish (ช่วยบำรุงหรือหล่อเลี้ยงเซลล์) 2. Protect (ช่วยป้องกันเซลล์เสื่อมจากการใช้ชีวิตและมลพิษต่างๆ) และ3. Renew (ช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ที่เสียหายให้กลับมาทำงานได้อีกครั้ง) โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวประกอบไปด้วย วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย, มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารที่ช่วยควบคุมระบบการทำงานของร่างกายที่มีความซับซ้อนให้กลับมาเป็นปกติ ซึ่งเป็นหลักของการใช้กลไกทางธรรมชาติที่ร่างกายมีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด

อย่างไรก็ตามภายในงานประดับเข็มเชิดชูเกียรติให้กับผู้นำนักธุรกิจยูซานาไทยที่ประสบความ สำเร็จในครั้งนี้นอกจากจะมีการเปิดตัว “ผลิตภัณฑ์ใหม่ Fibergy” อย่างเป็นทางการแล้วยังมีไฮไลท์น่าสนใจจากการแชร์ประสบการณ์และความสำเร็จของ 2 นักธุรกิจยูซานาที่มีความรู้ความสามารถ ได้แก่ “ดร.ดวงพร แจ่มใส” นักธุรกิจยูซานาไทยดีกรีผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุศาสตร์ และชีววิทยาระดับเซลล์ มาเป็นวิทยากรบรรยายเรื่องวิทยาศาสตร์ของยูซานา และ “อินเซลลิเจนซ์ (InCelligence)” เทคโนโลยีใหม่ของยูซานามาให้ความรู้เกี่ยวกับหลักการทำงานและความน่าสนใจของเทคโนโลยีนี้จากยูซานาก่อนที่จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อไปในอนาคต รวมถึง “Anthony Ng” Executive Star Diamond, 2Star Diamond Directors และ New Million Dollar Club นักธุรกิจจากยูซานา ฮ่องกง มาเป็นวิทยากรบรรยายถึงเรื่องราวการทำธุรกิจยูซานา และเทคนิคการทำงานให้ประสบความสำเร็จได้อย่างแท้จริง

 

Businessbiweekly.net

Visitors: 1,330,941